ละคร > ช่อง 7

เรื่องย่อละคร สะใภ้ไร้เงา

25 ก.ย. 2557 12:15 น. | เปิดอ่าน 4132 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

       บทประพันธ์ : ปิยพร วายุภาพ
       บทโทรทัศน์ : อรุณแก้ว
       กำกับการแสดง : นิรันดร์ ธรรมปรีชา
       ผลิต : บริษัท นวประทานพร จํากัด โดยผู้จัด : ตฤณ เศรษฐโชค
       ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7

 เรื่องย่อละคร สะใภ้ไร้เงา

       เช้าตรู่ในวันพิธีมงคลสมรสของ ‘มัจฉา’ ว่าที่เจ้าสาวพันล้าน เธอได้ขนครอบครัวอันได้แก่ ‘พ่อเพิ่ม’ ‘แม่วรรณา’ ‘ยายทอง’ และ ‘ข่อย’ น้องชายสุดแสบจาก ‘โคกอีกเห็น’ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพ ฯ เพื่อมาให้ทันงานหมั้นของมัจฉาในตอนเช้า แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น เมื่อระหว่างเดินทางได้เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้ครอบครัวของมัจฉาดับอนาถตายคาที่!

       
       แต่แล้วมัจฉาฟื้นขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้องแต่งตัว และกำลังจะเข้าพิธีหมั้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ทันทีที่ส่องกระจก เธอก็พบว่าในกระจกปราศจากซึ่งเงาของเธอ เพราะในตอนนี้เธอกลายเป็นเพียงวิญญาณซะแล้ว...ตึงงงงงง!
       
       มัจฉาร้องไห้เสียใจที่รู้ว่า ความตายกำลังจะพรากเธอไปจาก ‘ไตร ฐากูลเรืองวิริยา’ ว่าที่สามีอันเป็นที่รัก เธอจึงได้แต่ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงบุญกุศลที่ได้ทำมา เพื่อให้เธอได้เข้าพิธีแต่งงานกับคนที่เธอรัก และแล้วปาฏิหาริย์ก็บังเกิดขึ้น เมื่อร่างกายของมัจฉากลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
       
       ในที่สุดมัจฉาก็เข้าพิธีหมั้น และพิธีสมรสสมใจปรารถนาจนได้ หนำซ้ำครอบครัวของเธอยังเข้าร่วมพิธีด้วยหน้าตาเฉย เวลานี้มัจฉาสับสนไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ...หรือว่าทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝัน ความจริงแล้วคือเธอยังไม่ตาย !
       
       แต่งานแต่งงานของมัจฉาก็หาใช่ว่าจะราบเรียบ เพราะครอบครัวของมัจฉาเคยแต่ใช้มือจกข้าวเหนียวกับปลาแดก เลยไม่เคยขึ้นโต๊ะอาหารหะ-รู-หะ-ราแบบพวกไฮโซ ฯ ทำให้อาหารกระเด็นกระดอนไปตกลงบนโต๊ะแขกท่านอื่นบ้าง บางทีก็พานตกลงไปในถ้วยไวน์ที่ ‘คุณอดิศร’ พ่อของไตรที่กำลังกระดกดื่ม จนเจ้าตัวตกใจทะลึ่งพรวดไวน์ออกมา เลอะเทอะไปหมด หนักสุดเห็นจะเป็นขาหมูที่แม่วรรณาพยายามหั่น ดั๊นลอยละล่องตกลงไปบนกระบังผมของ ‘คุณหญิงตรีทิพย์’ แม่ของไตร ทำเอาคุณหญิงตรีทิพย์กรี๊ดแตก เดือดร้อนไตรต้องมาไกล่เกลี่ย คุณหญิงตรีทิพย์เห็นภายในงานต่างเต็มไปด้วยแขกที่เป็นทั้งนักการเมือง ไฮโซ ฯ รวมทั้งสื่อมวลชนทั่วฟ้าเมืองไทย เลยยอมไม่เอาเรื่องครอบครัวโคกอีเห็นของมัจฉา
 
       
       งานแต่งงานดำเนินมาถึงช่วงพิธีกรเชิญเจ้าบ่าวและเจ้าสาว รวมทั้งพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายขึ้นมากล่าวคำอวยพร ไตรให้คำมั่นสัญญาว่า ไม่ว่ามัจฉาจะเป็นอะไรก็ตาม เขาจะรักมั่นเพียงมัจฉาคนเดียว ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของตัวเอง สร้างความตื้นตันใจแก่มัจฉาเป็นอย่างมาก จนถึงกับน้ำตารื้นออกมา
       
       เมื่อถึงคราวของฝ่ายพ่อและแม่ของเจ้าบ่าว-เจ้าสาว พ่อเพิ่มบอกว่า ได้แต่งเพลงอวยพรมาให้ลูกเขยและลูกสาวของเขา ทีแรกคุณหญิงตรีทิพย์นึกว่าพ่อเพิ่มจะดีดเปียโน พร้อมกับร้องเพลงให้ แต่พอมองซ้ายก็ไม่เห็นเปียโนสักหลัง พอมองไปทางขวา เอ๊ะ ! ไหงกลับกลายเป็นว่า คุณหญิงตรีทิพย์เห็นข่อยเอาแคนที่พกติดตัวมาจากโคกอีเห็น มาเป่าให้พี่สาวสุดที่รัก โดยมีพ่อเพิ่มเริ่มขับขานเพลงหมอลำที่ตัวเองแต่งขึ้นมาเอง
       
       ไตรกับมัจฉาชวนแขกในงานให้มาเซิ้งด้วยกัน ทำเอาคุณหญิงตรีทิพย์ตาลีตาเหลือกรีบบอกสามี ให้ไปห้ามยายสะใภ้ไม่ได้รับเชิญหยุดทำอะไรบ้านนอกบัดเดี๋ยวนี้ ! แต่พอคุณหญิงตรีทิพย์หันไปก็แทบทรุด เมื่อเห็นคุณอดิศรกำลังเซิ้งอยู่กับแม่วรรณา และยายทองอย่างออกรสออกชาติ สิ้นสภาพนักธุรกิจหมื่นล้าน
       
       เสียงเพลงและทำนองที่คึกครื้นของมนต์แคนแดนอีสาน ทำเอาแขกไฮโซ ฯ ในงานที่เอียง ๆ อาย ๆ อยู่ ค่อย ๆ ลุกขึ้นมาเซิ้งกันอย่างสนุกสนาน (ม้วนแต้ !)
       
       แต่แล้วความสนุกก็อยู่กับมัจฉาและครอบครัวได้ไม่นาน เมื่อในคืนส่งตัวเจ้าสาว...มัจฉา พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยเองเริ่มรู้ตัวว่า ตอนนี้ตัวเองได้ตายไปแล้ว เพราะระหว่างที่พวกเขาจะไปส่งตัวมัจฉาที่ห้องพักในโรงแรม จู่ ๆ ก็มีผู้ชายแต่งตัวแปลก ๆ สีขาว ๆ มีชฎา แถมพอยายทองถามชื่อแซ่ อีกฝ่ายก็บอกว่าชื่อพระภูมิ ตอนแรกพ่อเพิ่มเข้าใจไปตามประสาซื่อว่า โรงแรมที่จัดงานแต่งของลูกสาวเขาคงอยากอนุรักษ์ความเป็นไทย เลยสั่งให้พนักงานแต่งชุดไทย
 
       
       ทว่าพอพระภูมิเอ่ยปากไล่ให้มัจฉากับครอบครัวออกไป โดยบอกว่าที่โรงแรมแห่งนี้นี่เป็นที่ของคน ไม่ใช่ที่ของผี ทำเอายายทองโกรธจัดจนลืมไปว่าแก่ กระโดดขาคู่ซัดพระภูมิเข้าให้ แต่แล้วทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีใครบางคนบางคนปรากฏตัวขึ้น ลากพระภูมิหายตัวไปต่อหน้าต่อตามัจฉาและครอบครัว ทำเอายายทองตกใจจนแทบจะหัวใจวาย
       
       และแล้วภาพขณะที่ประสบอุบัติเหตุ ก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาในหัวของมัจฉาและครอบครัว ‘ ใช่แล้ว...พวกเขาตายแล้วแหง ๆ ’ โดยยายทองเครียดกว่าใครเพื่อน เพราะแกเพิ่งไปเตะพระภูมิ !
       
       ‘พ่อเพิ่ม’ ‘แม่วรรณา’ ‘ยายทอง’ และ ‘ข่อย’ ร้องห่มร้องไห้เสียใจที่ยังใช้ชีวิตไม่คุ้ม โดยเฉพาะชีวิตคนกรุงเทพ ฯ ที่ปรารถนามานานแสนนาน จนกระทั่งมัจฉาได้พบกับ ‘ยมทูตแอนดี้’ ที่ยอมเปิดเผยตัว และได้สารภาพกับมัจฉาว่า เกิดความผิดพลาดทางด้านระบบคอมพิวเตอร์ของนรก ทำให้นำตัววิญญาณมาผิดบ้าน ด้วยเหตุนี้จึงได้พยายามที่จะให้มัจฉาได้เข้าพิธีแต่งงานตามความตั้งใจ
       
       มัจฉาโวยวายที่ตัวเองยังไม่ถึงที่ตาย แต่กลับต้องมาโดนพรากจากสามีอันเป็นที่รัก จึงขอให้ยมทูตแอนดี้ รับผิดชอบกับความผิดในครั้งนี้ ระหว่างที่คุย ๆ กันอยู่ พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อย ก็โผล่พรวดเข้ามาเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองสุดฤทธิ์ ทำให้ยมทูตแอนดี้ต้องยอมทำผิดกฎนรก โดยยอมให้พลังวิเศษแก่ครอบครัวมัจฉา ให้ได้ใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ต่อไป ตราบจนกว่าจะหาทางแก้ไขทางอื่นได้
 
       
       หลังงานแต่งงาน มัจฉาขอร้องไตรให้ครอบครัวของเธอ ได้เข้าไปพักในคฤหาสน์หรูของไตร แต่ ‘คุณหญิงตรีทิพย์’ แม่ของไตร กลับไม่ยินยอมให้ครอบครัวของมัจฉาเข้าไปอยู่ร่วมบ้านด้วย เพราะแม้แต่ตัวมัจฉาเอง ตรีทิพย์ก็ไม่ได้ยินดีที่จะรับเป็นสะใภ้อยู่แล้ว
       
       แต่ขณะที่ ‘อดิศร’ พ่อของไตร...สามีของตรีทิพย์ เห็นว่าไหน ๆ มัจฉาก็มาเป็นสะใภ้ในบ้านแล้ว ก็ควรจะยอมรับในครอบครัวของมัจฉาด้วย แต่แล้วคุณอดิศรก็ต้องรูดซิปปากเงียบทันที เมื่อคุณตรีทิพย์...ภรรยาบังเกิดเกล้าทุบโต๊ะดังปัง ! ซึ่งคนในตระกูล ‘ฐากูลเรืองวิริยา’ ต่างรู้ดีว่า คุณอดิศรกลัวภรรยาจนขึ้นสมอง เพราะคุณตรีทิพย์มีนิสัยด่าเป็นจรวด เค็มเป็นทะเล ข่มผัวเป็นกิจวัตร
       
       เมื่อแม่ไม่ต้องการให้มัจฉาและครอบครัวมาอยู่ในคฤหาสน์ ‘ฐากูลเรืองวิริยา’ ไตรก็บอกว่าเขาต้องไปอยู่ข้างนอกกับมัจฉา ในฐานะของสามีที่ต้องดูแลภรรยา ทำเอาคุณหญิงตรีทิพย์รีบห้ามเป็นการด่วน ด้วยเพราะรัก หวง ห่วงไตรที่เธอเลี้ยงมาอย่างดี ชนิดยุงตัวไหนมาไต่ นอกจากคุณหญิงตรีทิพย์จะตบแล้ว นางยังขยี้ ๆ ซ้ำจนจำซากเดิมไม่ได้
       
       และแล้วเรื่องจึงลงเอยด้วยการให้เพิ่ม วรรณา ทอง และข่อย เข้าไปอยู่ในเรือนหลังเล็กของคฤหาสน์ แม้ว่าบรรดาครอบครัวหรรษาจะไม่ยินดีนัก เพราะหมายมั่นปั้นมือไว้ว่า จะเป็นไฮโซอยู่บ้านโก้หรูกับเค้ามั่ง แต่ด้วยหลักทฤษฎีที่ว่า กำขี้ดีกว่ากำตด ทำให้ทุกคนยินยอมอยู่ในบ้านเล็กในเรือนใหญ่ ด้วยความไม่เต็มใจ
       
       แต่ขณะที่บ้านน้อยในเรือนใหญ่ พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยลั้ลลาที่ได้กลายเป็นคนกรุงเทพ ฯ หรือ ผีกรุงเทพ ฯ คนรับใช้ในคฤหาสน์ ทั้ง ‘ป้าแจง’ แม่ครัว และ ‘ไอ้หนึ่ง’ คนขับรถ ต่างงุนงงที่เห็นหมาหอนตลอดเวลา ตั้งแต่ครอบครัวนี้มาอยู่ที่นี่
       
       ชีวิตสมรสของไตรและมัจฉาเริ่มต้นด้วยอุปสรรคนานับประการ เพราะตรีทิพย์ทนรับสภาพที่มีมัจฉาอยู่ร่วมบ้านไม่ได้ จึงหาทางกลั่นแกล้งมัจฉาต่างๆ นานา โดยมี ‘พิศ’ และ ‘น้อย’ คนรับใช้คู่บารมีของตรีทิพย์ คอยช่วยหาเรื่องมัจฉา ทั้งให้ซักผ้า กวาดบ้าน ตัดหญ้า จ่ายตลาด ทำกับข้าว ใช้ราวกับเป็นศรีทนได้ ส่วนพิศกับน้อยเอาแต่นั่งทำท่าเป็นคุณหญิงคอยสั่งการมัจฉา ด้วยความเป็นคนจิตใจดี และรักสามีอย่างไตรมาก มัจฉาจึงยอมทำงานบ้านทุกอย่างที่คุณหญิงตรีทิพย์สั่ง โดยหวังว่าสักวันความดีของเธอจะชนะใจแม่สามีได้
 
       
       แต่ความดีของมัจฉายากที่จะชนะใจแม่สามีสุดร้าย เพราะทันทีที่คุณหญิงตรีทิพย์รู้ว่า มัจฉาจ่ายตลาดเกินโควต้าของคฤหาสน์ ก็เทศนายับ โดยบอกว่าหากไปจ่ายตลาด ต้องห้ามเกินอาทิตย์ละ 300 บาท (ซื้อข้าวสารก็หมดตัวแล้วค่ะคุณแม่ขา!) น้ำสุดท้ายที่ซักผ้าก็ต้องเอามาเช็ดพื้นบ้าน (จะพอเหรอคะ บ้านหลังใหญ่ราวกับสนามกอล์ฟเลยนะคะ) ใบไม้ที่กวาดก็ต้องมาทำเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ หนังสือพิมพ์ที่อ่านเสร็จต้องเอามาพับขาย (ไอ้ย๊ะ!) หรือไม่ก็ไปขายซาเล้งที่มารับซื้อ (คุณพระ!)
       
       โดยการทำผิดของมัจฉาครั้งนี้ คุณหญิงตรีทิพย์ลงโทษด้วยการยึดบัตรเครดิต ที่ไตรให้มัจฉาไว้ใช้จ่าย โดยสั่งมัจฉาว่าห้ามบอกไตร เรื่องถูกยึดบัตรเครดิตเด็ดขาด แม้ว่าคุณอดิศรจะรู้อยู่แก่ใจว่า เมียหาเรื่องแกล้งยึดบัตรเครดิตของมัจฉา แต่เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะตัวของเขาเองยังได้เงินไปทำงานวันละ 50 บาทเลย ขืนไปช่วย อาจจะถูกตัดเหลือเป็นวันละ 20 บาทก็เป็นได้
       
       พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยเห็นสภาพลูกสาวถูกกลั่นแกล้งก็ทนไม่ได้ ขอประกาศให้มันรู้ซะบ้างว่า คุณหญิงตรีทิพย์กำลังเล่นกับใครอยู่ (โฮะๆๆ)
       
       เริ่มจากพ่อเพิ่มจัดการแกล้งพิศที่กำลังอาบน้ำ ด้วยการลอดหัวออกมาจากฝักบัว ผลปรากฏว่าพิศกรี๊ดดังลั่น เอาขวดยาสระผมตบข่อยซะหัวหันกลับด้าน เดือดร้อนแม่วรรณา ยายทอง และข่อยต้องมาช่วยกันหมุนหัวข่อย ให้กลับมาเหมือนเดิม ก่อนที่พ่อเพิ่มจะถูกแม่วรรณาตบซ้ำ ข้อหาที่ขี้หลีไปหลอกพิศตอนโป๊
       
       คนต่อมาที่ถูกคิดบัญชีก็คือน้อย ขณะที่น้อยกำลังซักผ้าอยู่ ก็ต้องตกใจจนฉี่ราด เมื่อผ้าที่หยิบขึ้นมาจะซักนั้น เป็นหัวของข่อยที่ยาวยืด (บรื๋อส์ส์!)
       
       และคนที่พลาดไม่ได้อย่างแรงคือคุณหญิงตรีทิพย์ ซึ่งกำลังนอนหลับฝันหวานอยู่ แต่แล้วคุณหญิงตรีทิพย์ก็พลันตกใจตื่น เมื่อจู่ ๆ พบว่า ตัวเองกำลังนอนอยู่บนบัตรเครดิตขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่บนฟ้า ซึ่งบินฉวัดเฉวียนไปมา จะชนนู้นนี่นั่น จนร่างอวบ ๆ ของคุณหญิงตรีทิพย์จะร่วงตกตั้งหลายครั้ง ก่อนจะตกลงมาดังตุ้บจริง ๆ ที่กลางป่าช้า คุณหญิงตรีทิพย์วิ่งหนีหาทางออกจ้าละหวั่น แต่สุดท้ายก็หลงกลับมาที่เดิม ก่อนจะพบคนกลุ่มหนึ่งนั่งสุมกองไฟอยู่ ความดีใจว่างานนี้รอดแล้วเรา ทำให้คุณหญิงตรีทิพย์ตรงรี่ไปขอความช่วยเหลือ แต่พอคุณหญิงตรีทิพย์เห็นใบหน้าของแต่ละคนที่เต็มไปด้วยเลือด บางคนก็ลูกกะตาถลนออกมา คุณหญิงตรีทิพย์ก็ช็อกน้ำลายฟูมปาก ผมตั้งตรงแด่ว
 
       
       รุ่งเช้า...ไตรถึงกับสำลักกาแฟพรวด เมื่อเห็นสภาพแม่ พิศ และน้อยที่มีอาการคล้ายกัน นั่นคือจับไข้หัวโกร๋น ผมตั้งฟู พอคุณหญิงตรีทิพย์ พิศ และน้อยเห็นหน้าครอบครัวของมัจฉา ภาพเหตุการณ์ที่ถูกหลอกก็ฉาบวาบเข้ามา เพราะใบหน้าของบรรดาผีที่หลอก หน้าพิมพ์พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยเป๊ะ! ทำเอาคุณหญิงตรีทิพย์ พิศ และน้อยพากันประสานลูกคอกรี๊ดดังลั่น กระทั่งลืมตัวเผลอหลุดปากเรื่องยึดบัตรเครดิตจากมัจฉา ไตรรู้เรื่องแม่ของตัวเองยึดบัตรเครดิตจากมัจฉา ก็คาดคั้นจนรู้ความจริงทั้งหมด จึงต่อว่าคุณหญิงตรีทิพย์
       
       คุณหญิงตรีทิพย์พยายามบอกกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เรื่องผีที่หลอกเธอมีหน้าตาเหมือนกับครอบครัวของมัจฉา แต่ไตรเข้าใจผิดคิดว่าแม่ของตัวเองกำลังใส่ร้ายครอบครัวของมัจฉา จึงต่อว่าแม่และบอกว่าหากครอบครัวของมัจฉาเป็นผีจริง ทำไมถึงถูกแดด อีกทั้งยังใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ ทำเอาคุณหญิงตรีทิพย์กับพิศและน้อยถึงกับอึ้ง พลางคิดในใจว่า หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น พวกตนแค่ฝันไป ?
       
       ไตรไม่พอใจเป็นอย่างมากที่นอกจากแม่จะหาเรื่องรังแกมัจฉา แล้วยังมากล่าวหาว่ามัจฉาและครอบครัวเป็นอีก จึงประกาศกร้าวว่า หากมัจฉาและครอบครัวถูกกลั่นแกล้งอีก เขาจะย้ายไปอยู่ข้างนอกกับมัจฉาและครอบครัว
       
       ด้านมัจฉารู้ดีว่าเรื่องที่คุณหญิงตรีทิพย์เล่าเป็นความจริง จึงเรียกพ่อ แม่ ยาย และน้องมาเอ็ด พร้อมทั้งสั่งห้ามหลอกใครอีก เพราะเธอไม่อยากให้ไตรรู้เรื่องที่เธอและครอบครัวเป็นผี
       
       หลังจากนั้นเป็นต้นมา ถึงคุณหญิงตรีทิพย์ พิศ และน้อยจะคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือการฝันไป แต่ทุกครั้งที่ต้องมาป้วนเปี้ยนใกล้มัจฉากับครอบครัว ก็มักอดที่จะรู้สึกแหยง ๆ ไม่ได้ ซึ่งพ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยจะรู้ เลยชอบมาหาเรื่องสนทนาปราศรัยกับคุณหญิงตรีทิพย์กับสองสมุนอยู่บ่อย ๆ ซึ่งทุกครั้งก็ทำเอาทั้งสามคนเหงื่อแตก ปากคอสั่นทุกที จนในที่สุดคุณหญิงตรีทิพย์ต้องยอมสงบศึกชั่วคราว เพื่อขอเรียกขวัญและกำลังใจ ในการที่จะเฉดหัวมัจฉากับครอบครัวไปเสียให้ไกล ๆ
       
       เวลาเดียวกันนั้น ณ บ้านโคกอีเห็น หมู่บ้านเล็ก ๆ ทางภาคอีสาน ‘สุดที่รัก’ เจ้าของโรงสีข้าวที่รวยที่สุดในตำบล ผู้เป็นแฟนคลับของมัจฉา ได้ข่าวจากทางตำรวจว่า มัจฉาและครอบครัวประสบอุบัติเหตุ เพราะเห็นซากรถคว่ำอยู่ข้างถนน ทำเอาสุดที่รักที่หลงรักมัจฉาอย่างบ้าคลั่งทนไม่ได้ ต้องรีบหาทางติดต่อมัจฉาและครอบครัวด่วน
 
       
       ทันทีที่โทร.มา สุดที่รักก็พบว่า ทุกคนยังอยู่ดีมีสุข จนกระทั่งข่อยรายงานสุดที่รักให้ได้รู้ว่า มัจฉาแต่งงานมาอยู่ครอบครัวนี้ด้วยความลำบาก เพราะถูกตรีทิพย์กลั่นแกล้งตลอด ทำเอาสุดที่รักทนไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินทางมากรุงเทพ เพื่อปกป้องยอดดวงใจของเขาด้วยชีวิต
       
       ขณะเดียวกัน ตวิษา น้องสาวของไตร เดินทางกลับจากต่างประเทศ ก็ได้พบกับสุดที่รัก ขณะที่เขาเดินทางมาหามัจฉา และได้ขับรถชนรถของตวิษาเข้าให้ ด้วยความเป็นไฮโซประจำหมู่บ้าน สุดที่รักโวยวายจะเอาเรื่องตวิษาให้ได้ ขณะที่สาวเจ้าก็ไม่ยอมเช่นกัน โชคดีที่ไตรมาห้ามทัน ทำให้สุดที่รักได้รู้ว่า ผู้หญิงบ้านนี้ร้ายกาจกันทุกคน แล้วมัจฉาจะอยู่อย่างมีความสุขได้ยังไง
       
       สุดที่รักจึงสัญญากับตัวเองว่า จะต้องหาทางทำให้มัจฉาหย่าขาดกับไตร แล้วกลับไปเป็นเจ้าสาวของเขาให้ได้ ผ่าง ผ่าง ผ่าง!
       
       ความวุ่นวายไม่หยุดคืบคลานเข้ามาในบ้านของไตรเพียงแค่นี้ เพราะในที่สุด...ตัวช่วยของคุณหญิงตรีทิพย์ก็ปรากฏตัวขึ้น นั่นก็คือ ‘เอื้อมพร’ เพื่อนสนิทของตวิษาที่ได้พบกับไตร ก็เกิดประทับใจในตัวพี่ชายของเพื่อนรักเข้าให้ ตรีทิพย์และตวิษาเห็นเป็นโอกาสเหมาะ ที่จะทำให้ไตรและมัจฉามีปัญหากัน จึงขอให้เอื้อมพรช่วยร่วมมือในการกำจัดมัจฉาออกจากสกุล ฐากูรเรืองวิริยา ให้ได้
       
       เอื้อมพร ตรีทิพย์ และตวิษา พยายามทำทุกวิถีทางให้ไตรและมัจฉาเข้าใจผิดกัน โดยเอื้อมพรพยายามแสดงความสนิทสนมกับไตร ด้วยการใช้อกอวบ ๆ หยุ่น ๆ กระแซะสีข้างแนบเนื้อไตรตล้อด ๆ แต่มัจฉาเชื่อมั่นในความหนักแน่นของไตร จึงไม่พยายามไม่ใส่ใจกับวิถีนางร้ายของ 3 แสบ ที่พยายามทำให้เธอและสามีมีปัญหากัน ผิดกับแม่วรรณาที่เห็นแล้วอยากจับเอื้อมพรหักคอ แต่มัจฉาขอไว้ พร้อมกับสั่งว่า ห้ามใครหลอกเอื้อมพรและครอบครัวของไตรอีก ไม่อย่างนั้นเธอจะโกรธจริง ๆ แม่วรรณาเลยหงุดหงิด งุ่นง่านยกใหญ่
 
       
       แต่เอื้อมพรก็ไม่ยอมแพ้ เธอรู้ดีว่าความน้อยใจกำลังค่อย ๆ สะสมอยู่ในใจของมัจฉา เอื้อมพรจึงใช้แผนสอง ด้วยการใช้ความเป็นสาวไฮโซ ฯ พ่อเป็นนักการเมืองใหญ่ ช่วยสนับสนุนธุรกิจก่อสร้างของไตร จนประสบความสำเร็จ โดยเอื้อมพรมักจะมาพูดหยอดให้มัจฉาคิดมากว่า เธอกับไตรคือคู่ที่ควรคู่กัน เพราะต่างเกื้อหนุนกัน ไม่เหมือนกับมัจฉาที่เป็นแค่สาวบ้านนอก ซึ่งแผนนี้ของเอื้อมพรได้ผล ! เพราะมัจฉาเป็นแค่ลูกชาวนายากจน ไม่มีอะไรที่จะช่วยสามีให้ก้าวหน้าได้เลย
       
       ไม่ใช่เพียงแค่มัจฉาเท่านั้นที่เริ่มน้อยใจในตัวของสามี ด้านไตรเองก็เป็นเช่นกัน โดยตัวต้นเหตุก็คือสุดที่รัก ซึ่งย้ายมาปักหลักเช่าคอนโด ฯ อยู่ในกรุงเทพ ฯ เพื่อพามัจฉากลับบ้านนั้น คอยมาหามัจฉาที่คฤหาสน์ของไตร พอสุดที่รักเห็นมัจฉาต้องมาคอยซักเสื้อผ้าของตวิษา ทีแรกพอมัจฉาบอกว่า เธอเต็มใจทำให้ตวิษา สุดที่รักก็พอจะกัดฟันทนได้
       
       แต่พอเขาเห็นน้อยเอาชุดชั้นในของตวิษา มาให้มัจฉาซักด้วย ก็เลือดขึ้นหน้า ไปเอาเรื่องตวิษา ถึงขั้นลากตวิษาให้มาซักชุดชั้นในเอง โดยมีพ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยเป็นกองเชียร์ เพราะพวกเขาถูกมัจฉาคาดโทษไว้ว่าห้ามก่อเรื่อง ทั้ง ๆ ที่ใจอยากจะหลอกตวิษาให้น้ำลายฟูมปากไปเลย
       
       คุณหนูอย่างตวิษาไม่เคยยอมให้ใครมาสั่งง่าย ๆ จึงแข็งขืนยืนยันจะให้มัจฉาซักชุดชั้นในเหมือนเดิม ส่งผลให้สุดที่รักได้ยินก็ควันออกหู ไม่เข้าใจว่าซักชุดชั้นในมันยากเย็นแสนเข็ญตรงไหน เลยลงมือซักให้ดูซะเลย ทำเอาตวิษากับคุณหญิงตรีทิพย์กรี๊ดลั่น ช่วยกันแย่งกะละมังเป็นการใหญ่
       
       คุณหญิงตรีทิพย์โกรธจัด จนเผลอตัวพูดจาดูถูกครอบครัวมัจฉาว่าบ้านนอก สุดที่รักและครอบครัวของมัจฉาได้ยินก็โกรธจัด จนสุดที่รักปรามาสคุณหญิงตรีทิพย์ว่า ถึงพวกเขาจะจน แต่ก็ไม่เลี้ยงลูกจนโง่ ถึงขนาดซักชุดชั้นในไม่เป็น ชาตินี้ตวิษาไม่มีใครมาเอาไปทำเมียหรอก เพราะเอาตวิษาไปทำปุ๋ยคอก ก็ยังปลูกถั่วงอกไม่ขึ้นเลย
 
       
       ถ้อยคำปรามาสของสุดที่รัก ทำเอาคุณหญิงตรีทิพย์กับตวิษาเต้นเป็นเจ้าขา หาคำด่ากลับไม่ถูกเลยทีเดียว ส่วนคุณอดิศรได้แต่ตบมือดังฉาดอย่างสะใจ เพราะเขาไม่ชอบใจที่ตวิษาชอบทำตัวเป็นคุณหนู จนทำอะไรไม่เป็น
       
       สุดที่รักเห็นว่ามัจฉาถูกครอบครัวสามีแกล้งจริงอย่างที่ข่อยบอก จึงแตะมือ Give Me Five กับสมาชิกในครอบครัวของมัจฉา ทำเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้า ให้ตรีทิพย์และตวิษาต้องโมโหไม่เว้นแต่ละวัน
       
       ด้านไตรนั้น...ถึงแม้จะรู้ว่าสุดที่รักเป็นห่วงมัจฉา แต่เขาก็รู้สึกเกะกะสายตาทุกครั้ง ที่เห็นสุดที่รักพยายามมาป้วนเปี้ยน ใกล้ชิดมัจฉา เพราะไตรเคยรู้มาตั้งแต่จีบมัจฉาใหม่ ๆ ว่า สุดที่รักชอบมัจฉาจนถึงขั้นเคยจะให้พ่อกับแม่มาสู่ขอ
       
       ไตรไม่พอใจที่กลับมาจากทำงานทุกครั้ง เป็นต้องเห็นสุดที่รักช่วยมัจฉาทำงานบ้าน ทำกับข้าว อีกทั้งหลายครั้งที่สุดที่รักชอบพูดจากระแนะกระแหน ว่าเขาเป็นลูกแหง่กลัวแม่ ปล่อยให้แม่โขกสับมัจฉา ไม่มีน้ำยาปกป้องเมียได้ แต่ที่ไตรเจ็บปวดมากที่สุดก็คือ สุดที่รักเข้ากันได้ดีกับครอบครัวของมัจฉามากกว่าเขา ซึ่งเป็นความน้อยใจลึก ๆ ของไตร ที่เขามักทำอะไรดูเก้ ๆ กัง ๆ ทุกครั้ง ยามอยู่กับครอบครัวมัจฉา เพราะปลาร้า...เขาก็กินไม่ได้ เป่าแคน...เขาก็เป่าผิดเป่าถูก เว้าอีสาน...จะพูดยังไง เขาก็ยังพูดไม่ถูกเลย ซึ่งครั้งหนึ่งไตรเคยได้ยินพ่อเพิ่มพูดว่า สุดที่รักน่าจะเป็นลูกเขย ทำให้ไตรรู้สึกเป็นส่วนเกินของครอบครัวมัจฉา
       
       ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งคู่ทะเลาะ จนกระทั่งบานปลายมีปากเสียงกัน ถึงขั้นไตรแยกมานอนนอกห้อง พ่อเพิ่มรู้เรื่องเข้าก็ไม่พอใจ จะไปหักคอลูกเขยที่ทำให้แก้วตาดวงใจของเขาเสียใจ แต่โชคดีที่แม่วรรณาห้ามไว้ ก่อนจะเบิ๊ดกะโหลกผัวตัวดีสักที พร้อมกับสั่งสอนชุดใหญ่ว่า ต้องให้ทั้งไตรและมัจฉาเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหาในการใช้ชีวิตคู่เอง คนเป็นพ่อและแม่มีหน้าที่แค่คอยดูอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น
       
       ปัญหาในชีวิตของมัจฉาคืบคลานมากระหน่ำซ้ำมาอีก เมื่อยมทูตแอนดี้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวร้ายที่ว่า ทางนรกได้เช็คข้อมูลเรียบร้อยแล้ว และพบว่ายมทูตแอนดี้ไม่ได้ทำงานผิดพลาดแต่อย่างใด ซึ่งก็หมายความว่า ครอบครัวของมัจฉาชะตาถึงฆาตแล้วจริงๆ
 
       
       ยมทูตแอนดี้เตรียมตัวมารับวิญญาณของมัจฉาและครอบครัว ทำเอาทุกคนเสียอกเสียใจที่หมดเวลาในการใช้ชีวิตการเป็นมนุษย์ มัจฉาหาทางบอกไตรให้รู้เป็นนัย ๆ ว่า อีกไม่นานเธอและเขาจะต้องพรากจากกันตลอดไป หากกลายเป็นว่าไตรเข้าใจผิดคิดว่า มัจฉาจะทิ้งเขา แล้วไปอยู่กับสุดที่รัก ซึ่งเหมาะสมกว่า ไตรจึงยิ่งกลุ้มใจมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งผลดีให้เอื้อมพรเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น ด้วยการทำทีเป็นที่ปรึกษา ให้ไตรระบายความกลัดกลุ้ม จนพานกลับบ้านดึก ทำให้มัจฉาเป็นห่วง รวมทั้งเสียใจทุกครั้งที่เห็นว่า คนที่มาส่งไตรทุกคืนคือเอื้อมพร
       
       ตรงกันข้ามกับคุณหญิงตรีทิพย์และตวิษาที่ดีใจจนเนื้อเต้น จนคุณอดิศรอดค่อนแขะไม่ได้ว่า หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตวิษา ไม่รู้ว่าตรีทิพย์ยังจะดีใจ ยิ้มจนเหงือกบานอย่างนี้หรือไม่ ทำเอาสองแม่ลูกกรี๊ด ๆ ไม่หยุด
       
       ฝ่ายข่อยสงสารพี่สาวที่จะถูกเอื้อมพรแย่งสามี เลยแกล้งทำให้หมาทั้งซอยหอน ทำเอาเอื้อมพรต้องรีบเผ่นแน่บ ทั้ง ๆ ที่อยากอยู่ออเซาะไตรต่อ จากนั้นข่อยก็แกล้งเสกให้กระป๋องน้ำอัดลม ท่อนไม้ ถังขยะ ลอยกระแทกมาหัวของไตรเสียเลย เผื่อจะหายโง่เลิกคว้าก้อนกรวด มาแทนเมียแสนดีอย่างพี่สาวเขา
       
       ข่อยอดรนทนไม่ไหวที่ต้องมาเห็นพี่สาวน้ำตาเช็ดหัวเข่าทุกวัน จึงไปฟ้องสุดที่รักว่า เอื้อมพรจะแย่งไตรไปจากมัจฉา สุดที่รักได้ยินก็กระโดดดีใจสุดเหวี่ยงที่รู้ว่า ไตรกับมัจฉาจะเลิกกัน ทำเอาข่อยถึงงง ๆ ว่า นี่เขามาหาตัวช่วยผิดคนหรือเปล่า พอสุดที่รักเห็นสายตาของข่อยก็รู้สึกได้ รีบทำเก๊กเป็นคนดี แสร้งทำเป็นเห็นใจไม่อยากให้ไตรกับมัจฉาเลิกกัน โดยรับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้
       
       ทีแรกสุดที่รักจะไปเอาเรื่องไตร แต่พอเห็นขนาดหุ่นและมัดกล้ามของไตร ที่ทั้งใหญ่ ทั้งหนากว่าก็ขอถอยไปตั้งหลักก่อน และแล้วสุดที่รักก็คิดได้ว่า เขาควรเล่นงานใครดีที่เขาพอจะสู้ได้อย่างสูสี ซึ่งคนที่หวยออกก็คือ ‘ตวิษา’
       
       สุดที่รักไปต่อว่าตวิษา ว่าร่วมมือกับเอื้อมพรในการแย่งไตรกับมัจฉา หากนั่นยังไม่น่าเจ็บใจเท่าสุดที่รักบอกว่า ตวิษาทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง นอกจากทำให้ผัวเมียชาวบ้านเขาเลิกกัน ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ส่งไปเรียนถึงต่างประเทศ ทำเอาตวิษาโกรธจัด ปาข้าวของใส่สุดที่รักไม่หยุด ซึ่งตวิษาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า นอกจากความรู้สึกโกรธตาบ้านนอกคนนี้ เธอยังมีความรู้สึกน้อยใจรวมอยู่ด้วย...น้อยใจที่เขาไม่เคยเห็นเธอมีดีในสายตา ต่างจากลูกชายลูกท่าน หลานเธอทั้งหลาย ที่ต่างชมว่าเธอคือผู้หญิงสุดเพอร์เฟกต์
 
       
       และแล้วก็ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝันครั้งใหญ่ขึ้นในวงการนรก เมื่อมัจฉาได้ตั้งท้องลูกของไตร ตึงงงงงงง! ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อยมทูตรายงานกับทางนรกถึงปัญหาหนักที่ตามมา และแล้วมัจฉาก็ได้รับการต่อเวลาให้มีร่างมนุษย์ต่อไป ตราบจนกว่าจะคลอดลูก
       
       ด้านตรีทิพย์ที่ถึงแม้จะเกลียดชังมัจฉาแค่ไหน แต่เมื่อรู้ว่ามัจฉากำลังอุ้มท้องหลานของเธอ ตรีทิพย์ก็เริ่มใจอ่อน และยอมดูแลมัจฉาอยู่ห่าง ๆ อย่างไว้ฟอร์ม ขณะที่เอื้อมพรเล็งเห็นว่า ตรีทิพย์กำลังเอนเอียงไปทางมัจฉา จึงได้วางแผนรวบหัวรวบหางไตร เพื่อเรียกร้องสิทธิ์การเป็นภรรยาของไตรอีกคน แล้วแผนการของเอื้อมพรก็สำเร็จจนได้
       
       รุ่งขึ้นเมื่อมัจฉาได้รู้ว่า ไตรได้เสียกับเอื้อมพรก็เสียใจมาก แต่ลึก ๆ ก็แอบดีใจที่ไตรจะได้มีคนดูแลต่อจากเธอ หากแต่สิ่งที่เอื้อมพรต้องการมากกว่าแค่คำขอโทษ หรือการยินดีรับเลี้ยงดู เพราะเธอต้องการให้มัจฉาหย่าขาดจากไตร แลกกับการไม่เอาเรื่องไปแฉ ทำให้หน้าที่การงานของไตรต้องมีปัญหา
       
       ด้านพ่อเพิ่มที่รู้เรื่องไตรมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเอื้อมพร ก็โกรธจนตัวสั่น แต่ก็ติดตรงที่แม่วรรณา...เมียรักเคยขอให้อย่าไปยุ่งเรื่องของลูก เลยไม่กล้าทำอะไรลูกเขยคนโปรดของแม่วรรณา ทว่าพอพ่อเพิ่มหันไปเห็นเมียรักยืนตัวสั่น ก็ตกใจนึกว่าผีเข้า เลยถูกแม่วรรณาเบิ๊ดกะโหลกบอกว่า เป็นผีอยู่แล้ว ผีที่ไหนจะมาเข้าได้ยังไง และสาเหตุที่เธอตัวสั่น ก็เป็นเพราะโกรธที่พ่อเพิ่มไม่จัดการลูกเขยหลายใจอย่างไตรเสียที พ่อเพิ่มได้ยินก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ จะจับไตรหักคอคืนนี้ซะเลย
       
       ทว่ามัจฉาเห็นแก่ไตรที่ตกที่นั่งลำบาก เลยตัดสินใจจะพาครอบครัวของตัวเองกลับบ้านโคกอีเห็น ทำเอาพ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยเซ็งกันหมด มีเพียงสุดที่รักคนเดียวเท่านั้นที่ลั้ลลาดีใจเป็นที่สุด ที่จะได้กลับบ้านไปดูแลมัจฉาในถิ่นของตัวเองเสียที
       
       การกลับไปของครอบครัวมัจฉา สร้างความงุนงงสงสัยให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะ ‘เสี่ยแสน’ และ ‘สร้อย’ พ่อกับแม่ของสุดที่รัก ที่ได้ยินชาวบ้านนินทามัจฉาและครอบครัวว่า มีอะไรผิดปกติหลายอย่าง อีกทั้งหมอผีประจำหมู่บ้านยังยืนยันฟันเฟิร์มซะอีกว่า ครอบครัวนี้คือ อดัมแฟมมิลี่อย่างแน่นอน !
       
       เสี่ยแสนและสร้อยพยายามเตือนสุดที่รัก ไม่ให้ยุ่งกับครอบครัวมัจฉา หากแต่สุดที่รักก็ยังยืนกรานว่า มัจฉาไม่ใช่ผีอย่างที่ใครนินทา ทำเอาสองสามีภรรยาที่รักลูกชายอย่างสุดที่รักยิ่งดวงใจ ต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่า ความจริงแล้วครอบครัวของมัจฉาเป็นผีจริง ตามที่ชาวบ้านพูดหรือเปล่า ?
 
       
       ในเวลาเดียวกันนั้น ไตรที่เห็นภรรยาสุดที่รักหนีกลับบ้านนอก ก็น้อยใจคิดว่ามัจฉาหมดรักเขาจริง ๆ เลยเอาแต่ดื่มเหล้า ส่วนเอื้อมพรก็ย้ายข้าวของมาอยู่ในคฤหาสน์ฐากูรเรืองวิริยา ในฐานะภรรยาคนใหม่
       
       นิสัยชอบดูถูกคนและจิกหัวคนรับใช้อย่างกับทาสของเอื้อมพร ทำให้พิศ น้อย และคนรับใช้ในคฤหาสน์ฐากูรเรืองวิริยาไม่ชอบเอื้อมพร ทุกคนต่างนึกถึงตอนที่มัจฉาอยู่ เพราะมัจฉาชอบมาช่วยพวกตนทำงาน ส่วนพวกแม่วรรณาก็ชอบตำส้มตำปลาร้า ให้พวกพิศกินอย่างไม่ถือตัว หรือถือเรื่องที่เคยผิดใจกัน
       
       นอกจากคนรับใช้จะเริ่มไม่ชอบเอื้อมพร คุณหญิงตรีทิพย์ก็ชักเริ่มอยากจะอัปเปหิเอื้อมพรไปจากคฤหาสน์ เพราะเอื้อมพรมีนิสัยฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย แต่ที่คุณหญิงตรีทิพย์ไม่ชอบอย่างแรงก็คือ เอื้อมพรพูดต่อว่ากฎประหยัดต่าง ๆ ในคฤหาสน์ ว่าคนคิดประสาทบ้างเอย สมองแรงทึ้งบ้างเอย ต้องเป็นพวกชอบข่มเหงลูกและสามี ฯลฯ โดยหารู้ไม่ว่าคนที่ตั้งกฎก็คือคุณหญิงตรีทิพย์นั่นเอง
       
       เวลานี้คุณหญิงตรีทิพย์เริ่มคิดถึงมัจฉา ภาพที่มัจฉาคอยช่วยทำงานบ้าน ทำกับข้าวค่อย ๆ ผุดมาเปรียบเทียบกับเอื้อมพร ที่วัน ๆ ตื่นมาก็บ่ายคล้อย แต่งหน้ากว่าจะเสร็จก็เย็น งานการก็ไม่ทำ เอาแต่ช้อปปิ้ง ดริ๊งค์ แอนด์ แดนซ์ถึงเที่ยงคืน ยามนี้คุณหญิงตรีทิพย์เลยคิดถึงมัจฉา โดยเฉพาะหลานตัวน้อย ๆ ที่อยู่ในท้องของมัจฉา
       
       คุณอดิศรรู้เรื่องคุณหญิงตรีทิพย์เริ่มไม่โปรดเอื้อมพร ก็หัวเราะสะใจเป็นการใหญ่ เพราะเขาละหน่ายกับนิสัยมองคนแต่เปลือกของภรรยาอย่างมาก ทำเอาคุณหญิงตรีทิพย์ไม่พอใจขู่จะตัดเงินรายวัน คุณอดิศรเลยต้องแอบไปหัวเราะนอกบ้านดัง ๆ คนเดียว
       
       ทว่าพอคุณอดิศรมาเห็นสภาพของไตร ที่เมาหัวราน้ำกลับมาบ้านแทบทุกวัน ก็ทนเห็นสภาพของลูกชายไม่ไหว เลยตัดสินใจพูดเตือนสติไตร โดยขอให้ไตรนึกถึงคำมั่นสัญญา ที่ให้ไว้กับมัจฉาในวันแต่งงาน และเมื่อคนสองคนได้สัญญาจะแก่ตายไปด้วยกัน หากมีปัญหาที่คับข้องใจกัน ถ้าเบาก็ให้อภัย แต่ถ้าหนัก...ก็ไม่ควรจะเก็บไว้แล้วคิดฟุ้งซ่านคนเดียว แต่ควรจะหันหน้าคุยกัน เพราะความจริงอาจจะไม่ใช่อย่างที่ไตรคิดก็เป็นได้ คำเตือนของพ่อทำให้ไตรตัดสินใจจะเดินทางไปบ้านโคกอีเห็น
 
       
       โดยช่วงเวลาเดียวกันนั้น เสี่ยแสนและสร้อยเห็นว่า สุดที่รักและไตรกำลังตกอยู่ในวังวนของครอบครัวผี เลยหาทางแฉครอบครัวมัจฉาทุกคนด้วยสารพัดวิธี ทั้งหาหมอผีไทย เขมร มอญ ฝรั่งมาทำพิธีปราบ แต่ทุกครั้งกลับเจออิทธิฤทธิ์ของอดัมแฟมมิลี่ จนพากันหนีเตลิดเปิดเปิง
       
       ภาพของไตรที่หอบหิ้วกระเป๋ามาที่บ้านของมัจฉา เป็นภาพที่มัจฉาคิดว่าฝันไป แต่อ้อมกอดของไตรที่โผเข้ามากอดเธอ พร้อมทั้งพูดขอโอกาส มัจฉาจึงรู้ว่าเธอไม่ได้ฝันไป ด้วยใจที่รักมั่น กอปรกับรู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ได้อีกไม่นาน ทำให้มัจฉาพร้อมจะให้อภัยไตรทุกอย่าง ไตรกับมัจฉาปรับความเข้าใจในกันและกัน ไตรยอมเปิดเผยความรู้สึก ตั้งแต่หึงมัจฉาที่มีสุดที่รัก ซึ่งเหมาะสมกว่าอยู่เคียงข้าง หรือแม้แต่การปรับตัวเข้าไม่ได้กับวิถีชีวิตอีสานของครอบครัวมัจฉา ซึ่งมัจฉาบอกกับไตรว่าคิดมาก เธอกับสุดที่รักเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็ก และจะเป็นตลอดไป เพราะเธอได้มอบใจให้กับไตรไปจนหมดแล้ว ส่วนการปรับตัวเข้ากับครอบครัวเธอนั้น มัจฉาอยากให้ไตรเป็นตัวของตัวเอง อย่าฝืน เพราะไตรจะไม่มีความสุข ซึ่งนั่นคือสิ่งที่มัจฉาไม่ต้องการให้เกิดกับคนที่เธอรัก
       
       ขณะที่มัจฉาเองก็เปิดเผยความรู้สึกที่ตัวเองเป็นคนบ้านนอก ไม่สามารถจะช่วยเหลือเกื้อหนุนไตรได้เลย หากไตรบอกว่าสิ่งที่มัจฉาคิดนั้นผิด มัจฉาเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยเกื้อหนุนเขาได้ เพราะสิ่งที่สามีทุกคนจากคู่ชีวิตตัวเองนั่นคือ... ‘กำลังใจ’ …กำลังใจในการที่จะต่อสู้ พร้อมกับนำพาครอบครัวไปสู่ความสำเร็จและความสุข
       
       ภาพไตรกับมัจฉาที่กอดหวานแหวว แฮปปี้แอนด์ดิ้ง ทำเอาก้อนเนื้อข้างซ้ายที่เรียกว่าหัวใจของสุดที่รักถึงกับแหลกสลาย ร้องห่มร้องไห้กลับบ้าน สภาพข้าวปลาไม่ยอมกิน น้ำไม่ยอมอาบ เอาแต่นั่งซึม บางครั้งก็ร้องไห้ ยิ่งทำให้เสี่ยแสนและสร้อยร้อนใจ คิดว่าหากมัจฉายังอยู่ ลูกชายสุดที่รักของพวกเขาคงจะยิ่งอาการหนัก ทั้งสองคนจึงตัดสินใจจะหาแผนขั้นพิฆาตครอบครัวผีหรรษานี่เสีย !
       
       ใช่ว่าจะมีแค่เสี่ยแสนกับสร้อยที่คิดจะเล่นงานมัจฉากับครอบครัว เอื้อมพรได้รู้ว่าไตรเลยตัดสินใจหนีตามกลับไปอยู่กับมัจฉา ก็ทำเอาเอื้อมพรทนไม่ได้ เลยชักชวนตวิษาตามล่าสามีที่โคกอีเห็นด้วย โดยเอื้อมพรกับตวิษาขอพักกับไตร ซึ่งพักบ้านของครอบครัวมัจฉา ทั้งที่ใจอยากจะไปพักในโรงแรมหรูใจจะขาด แต่ด้วยความบ้าผู้ชายที่มีมากกว่า เอ๊ย ! แต่ด้วยความอยากอยู่ใกล้ไตร เอื้อมพรเลยขออยู่ที่บ้านของครอบครัวมัจฉา
 
       
       ไตรรู้สึกอึดอัดกับการที่เอื้อมพรตามราวีมัจฉาไม่หยุดหย่อน มัจฉาเห็นว่าเอื้อมพรรักไตรมาก ก็ทำดีกับเอื้อมพร เพราะคิดว่าต่อไปเอื้อมพรจะต้องเป็นคนดูแลไตร และอาจจะรวมถึงลูกของเธออีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น เอื้อมพรก็ยังรังเกียจมัจฉาอยู่ดี รวมทั้งคิดว่ามัจฉาแสร้งทำเป็นนางเอก มาทำเป็นเมียหลวงปรองดองกับเธอ
       
       ขณะที่ตวิษามาอยู่บ้านนอกคอกนา ก็ออกอาการรังเกียจสารพัด แต่ยิ่งเกลียดอะไรก็ต้องเจออยู่เรื่อย โดยเฉพาะสุดที่รัก หนุ่มบ้านนอกที่ตวิษารังเกียจยิ่งกว่าอะไรดี อย่างคืนแรกที่ตวิษากับเอื้อมพรมาอยู่ที่บ้านมัจฉา จู่ ๆ ไฟที่บ้านของมัจฉาขาด เพราะทั้งเอื้อมพรและตวิษาขนเครื่องใช้ไฟฟฟ้าสารพัดมาใช้เกินกำลังไฟ ตวิษาที่กลัวความมืดนอนไม่ได้ ขอให้เอื้อมพรช่วยทำให้ไฟฟ้าใช้ได้ แต่เอื้อมพรรำคาญ บอกไม่ได้จบไฟฟ้า ก่อนจะนอนหลับหน้าตาเฉย ไม่สนใจตวิษาที่เริ่มจะตาแดง ๆ เพราะเธอเป็นโรคกลัวความมืด
       
       เสียงร้องไห้ของตวิษา ทำให้สุดที่รักมาหาสาเหตุไฟดับเห็นเข้าพอดี เลยเวทนาจุดกองไฟ เป่าแคน ร้องเพลงหมอลำ เผื่อคลายความกลัวให้ตวิษา ซึ่งก็ได้ผล แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงหมอลำ แต่คืนนั้นตวิษาก็หลับไปพร้อมเสียงเพลงอันไพเราะของสุดที่รัก
       
       หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเป็นไง ทุกครั้งที่ตวิษาเจอเรื่องแย่ ๆ ก็จะเป็นสุดที่รักซะเอง ที่เป็นพระเอกมาคอยช่วยตวิษาเสมอ อย่างถ้าตวิษาถูกยุงกัดจนตัวแดง กลางคืนก็จะมีคนปากกรรไกรอย่างสุดที่รักมาจุดกองไฟ คอยพัดควันไล่แมลงให้ หรือน้ำในตุ่มหมด เพราะเอื้อมพรอาบจนหมด เดือดร้อนตวิษาต้องไปหิ้วน้ำมาจากคลองมาอาบเอง แต่สาวชาวเมืองที่จับแต่ไอแพ่ด หิ้วถังน้ำได้สองก้าวก็หน้าทิ่ม สุดที่รักก็โผล่มาช่วยตักน้ำให้
       
       ถึงการช่วยของสุดที่รักจะมาพร้อมกับคำพูดแสบไปถึงทรวง แต่ความมีน้ำใจและความอบอุ่นของสุดที่รัก ก็ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าลงสู่รากลึกของหัวใจตวิษา ขณะที่สุดที่รักก็รู้สึกเอ็นดูความไม่เอาไหนของตวิษา จนทำเอาทั้งคู่เกิดหวั่นไหวกันอย่างไม่รู้ตัว ส่งผลให้สุดที่รักต้องคอยเตือนสติตัวเองให้รู้ว่า มัจฉาเท่านั้นที่เขาจะรักและดูแลตลอดไป
       
       ในที่สุดเสี่ยแสนกับสร้อยก็คิดแผนการขั้นสุดท้าย ในการพิฆาตครอบครัวมัจฉาได้แล้ว นั่นก็คือหันไปพึ่งหลวงตาบุญ ให้ช่วยกำจัดครอบครัวมัจฉา เพื่อที่สุดที่รักลูกชายของพวกเขาจะได้ปลอดภัย เสี่ยแสนและสร้อยนิมนต์หลวงตาบุญไปยังบ้านของมัจฉา และแล้วท่านก็สัมผัสได้ว่า ทุกคนเป็นวิญญาณจริงดังที่ชาวบ้านพูดกัน แต่แล้วยมบาลแอนดี้ก็ปรากฏตัวขึ้น และได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้หลวงตาบุญฟัง หลวงตาบุญได้เทศน์เรื่องบุญกรรมของครอบครัวมัจฉา รวมถึงให้ทุกคนทำใจถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และรับความจริงให้ได้ แต่แล้วจังหวะนั้นเองไตรก็เข้ามาได้ยินเรื่องราวทั้งหมดว่า ความจริงแล้วมัจฉาได้ตายไปนานแล้ว และเขามีภรรยาเป็นผี!
       
       ไตรหาว่าทุกคนกุเรื่องขึ้น เพื่อกล่าวหามัจฉาและครอบครัว จนถึงกับแจ้งความจับเสี่ยแสน และสร้อย รวมถึงจะเอาเรื่องหลวงตาบุญอีกด้วย ทำให้มัจฉารู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ไตรควรจะได้รู้ความจริงทั้งหมด
       
       มัจฉาสารภาพกับไตรทั้งน้ำตาถึงเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่เธอประสบอุบัติเหตุในเช้าวันแต่งงาน จนกระทั่งเธอได้ใช้ชีวิตคู่กับไตร และขอโทษที่ปิดบังเรื่องนี้กับไตรมาตลอด เพราะเธอรักไตรมาก และอยากมีเวลาใช้ชีวิตคู่กับไตร แม้จะเพียงไม่นานเท่านี้ก็มีความสุขแล้ว หากแต่ไตรที่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ทำใจไม่ได้ จึงได้หนีไป
       
       ขณะที่เอื้อมพรได้รู้ความจริงก็กลัวมัจฉามาก จึงได้สารภาพความจริงว่า แท้จริงแล้วเอื้อมพรยังไม่ได้มีอะไรกับไตร แต่เพราะเธออยากได้ไตรเป็นสามีจึงได้จัดฉากขึ้น ก่อนจะโยนความผิดให้คุณหญิงตรีทิพย์กับตวิษา ว่าเป็นคนบังคับให้เธอมาแย่งไตรไปจากมัจฉา
 
       
       ตวิษาได้ยินอย่างนั้นก็ต่อว่าเอื้อมพรที่โกหก หากเวลานี้เอื้อมพรกลัวถูกผีหักคอมากกว่า เลยเผยธาตุแท้บอกความจริงเรื่องที่หากไม่ใช่เพราะตระกูล ‘ฐากูลเรืองวิริยา’ คือตระกูลมหาเศรษฐี ไฮโซ ฯ เธอก็ไม่อยากเป็นสะใภ้กับคนในตระกูลนี้ เพราะเธอทนไม่ได้ที่ต้องอยู่กับคนที่ทะเลเรียกแม่อย่างคุณหญิงตรีทิพย์ ที่สำคัญ...หน้าโง่กันทั้งบ้าน ใช้ชีวิตอยู่กับเมียผีได้นานสองนาน
       
       คำพูดดูถูกครอบครัวตัวเองทำให้ตวิษาประกาศตัดเพื่อนกับเอื้อมพร แต่เอื้อมพรหาได้แยแส ใครหมดประโยชน์ เธอก็ไม่แคร์ เก็บกระเป๋าหลุยส์สุดหรูกลับกรุงเทพ ฯ เย็นวันนั้นทันที
       
       แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ในฐานะที่หมั่นไส้มานาน คืนนั้นพ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยขอเอาคืนเอื้อมพร ด้วยการตามไปหลอกจนอีกฝ่ายหัวตั้ง กลับกรุงเทพ ฯ ไปอย่างกระเจิง
       
       ขณะที่ตวิษาไม่รู้จะอยู่ยังไงคนเดียว ทั้งกลัวผี ทั้งหลงกับไม่ถูก เสี่ยแสนกับสร้อยสงสารเลยชวนให้มาพักอยู่ด้วยกัน โดยพรุ่งนี้เช้าเสี่ยแสนจะให้สุดที่รักขับรถไปส่งที่กรุงเทพ ฯ แต่สุดที่รักโวยวายไม่ยอม เพราะโกรธที่ตวิษาร่วมมือกับแม่ บังคับให้เอื้อมพรมาแย่งไตรไปจากมัจฉา จนตวิษาน้อยใจ ร้องไห้ออกมา
       
       และคืนนั้น...ตวิษาก็เอาแต่ว่าตัวเองทั้งน้ำตาว่าทำไมต้องเสียน้ำตาให้กับคนบ้านนอก ที่ปากคมยิ่งกว่ากรรไกร หลงตัวเองว่าหล่อ อีกทั้งยังไม่เคยเห็นเธอดีในสายตา และแล้วคำพูดหนึ่งก็หลุดออกมาจากปากตวิษา... ‘เพราะเธอรักเขา’ ก่อนที่สาวน้อยใบหน้าน่าหยิกอย่างตวิษา จะปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น
       
       หากแต่รุ่งเช้าตวิษาก็ต้องแปลกใจที่พบว่า คนขับรถที่จะพาเธอไปกรุงเทพ ฯ คือ ยอดชายนายสุดที่รัก ตวิษาทำท่าไม่ยอมขึ้นรถ แต่กลับถูกสุดที่รักแบกยัดใส่ไปในรถ พร้อมกับบ่นตามสไตล์ผีเจาะปากมาพูดว่า ตวิษาเรื่องมาก
       
       ระหว่างการเดินทาง คนทั้งสองไม่ยอมพูดอะไรกันเลย กระทั่งถึงหน้าคฤหาสน์ของตวิษา สุดที่รักบอกว่าเขาพร้อมจะให้อภัยตวิษากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากตวิษาจะต้องยอมปรับเปลี่ยนนิสัย ด้วยการหางานทำ เลิกทำตัวฟุ่มเฟือย ไม่ใช้ของแบรนด์เนม ที่สำคัญต้องหัดซักชุดชั้นในเอง โดยต้องโทรศัพท์มารายงานความประพฤติกับเขาทุกวัน
       
       คำพูดของสุดที่รักทำเอาตวิษาแทบจะกรี๊ด ว่าสุดที่รักเป็นใครกันถึงกล้ามาตั้งข้อแม้กับเธอ สุดที่รักเลยสวนกลับด้วยท่าทียียวนว่ายากมากที่ ไฮโซฯสุดหล่อแห่งบ้านโคกอีเห็นอย่างเขาจะให้อภัยใครง่ายๆ เพราะฉะนั้นนับว่าเป็นบุญของตวิษาเป็นอย่างมากที่ได้รับเกียรตินี้
       
       ความจริงตวิษาเป็นเดือดเป็นแค้นมาก กับการที่มีผู้ชายบ้านนอกมาออกคำสั่งให้เธอทำนั่นทำนี่ แต่สุดท้ายตวิษาก็ยอมทำตามกฎที่สุดที่รักตั้ง แถมยังยอมโทรศัพท์ไปรายงานความประพฤติ ให้อีตาบ้านนอกที่มอบหัวใจฟังทุกวัน
       
 
       ด้านมัจฉาที่ท้องแก่ ก็พยายามออกตามหาไตร แต่ก็ไม่พบ พ่อเพิ่ม แม่วรรณา ยายทอง และข่อยต่างสงสารมัจฉาเป็นอย่างมาก ยายทองบอกให้มัจฉาตัดใจจากไตรเสีย เพราะได้อยู่กันคนละโลกแล้ว มัจฉาควรดูแลลูกในท้องให้ดีที่สุด
       
       ซึ่งหลังจากความจริงเรื่องครอบครัวของมัจฉาเป็นผี ชาวบ้านทั่วโคกอีเห็นก็ไม่กล้าเดินผ่านบ้านของมัจฉาอีกเลย ร้านค้าก็ปิดตั้งแต่หัวค่ำ มีเพียงสุดที่รักที่มาเยี่ยมเยียนมัจฉาและครอบครัวไม่เคยขาด ทำเอาเสี่ยแสนและสร้อยต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่บ่อยครั้ง ด้วยกลัวว่ามัจฉาและครอบครัวจะพาลูกชายโทนของพวกเขาไปอยู่ด้วย
       
       โดยในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ไตรแอบหลบไปอยู่ที่บ้านพักในต่างจังหวัด เพื่อขอทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมักจะมีคุณอดิศร คุณตรีทิพย์ และตวิษาหมั่นมาเยี่ยม
       
       ไตรเห็นความเปลี่ยนไปในตัวของน้องสาวที่ดีขึ้น ซึ่งคุณอดิศรแอบกระซิบบอกว่าเป็นเพราะสุดที่รัก ซึ่งทีแรกคุณหญิงตรีทิพย์ออกแรงขวางเต็มแรงเกิด ทว่าพอรู้ว่าเสี่ยแสนและสร้อยรวย ชนิดต้องเอาเงินใส่กระสอบปุ๋ยไปฝากธนาคารทุกครั้ง เลยไฟเขียวผ่านตลอด แถมเร่งวันให้แต่งงานกันเร็ว ๆ ด้วยซ้ำ หากแต่ตวิษาไม่ยอม โดยอ้างว่าเธอไม่เชื่อในความรักว่ามีอยู่จริง เพราะผู้ชายมักจะให้คำสัญญาว่า จะรักคนรักของตัวเองไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายหากเมียตัวเองรูปร่างเปลี่ยน หรือพอตายไปได้ไม่กี่ปี ผู้ชายก็เปลี่ยนใจมีคนอื่นลืมถ้อยคำสัตย์สาบานจนหมด
       
       คำบอกเล่าของคุณอดิศรแทงใจดำของไตรเข้าอย่างจัง จนเขาหวนนึกถึงวันแรกที่คุกเข่าขอมัจฉาแต่งงานไปจนถึงวันแต่งงานที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักมัจฉา ไม่ว่าต่อไปในอนาคตเธอจะเป็นอะไรก็ตาม แล้วนี่...
       
       ในที่สุดถึงกำหนดคลอดลูก มัจฉาได้คลอดลูกสาวหน้าตาน่ารักให้แก่ไตร และแล้วยมทูตแอนดี้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เพื่อทวงสัญญาเรื่องที่เขาจะต้องพาวิญญาณของมัจฉาและครอบครัวไปเสียที มัจฉาเสียใจมากที่เธอจะไม่มีโอกาสได้พบไตรอีกแล้ว
       
       แต่แล้วจังหวะนั้นเอง ไตรก็กลับมา ทันเวลาก่อนที่ร่างของมัจฉาจะหายไป ไตรและมัจฉาร่ำลากันทั้งน้ำตา โดยที่ไตรขอโทษที่หนีไป ทั้งที่ความจริงแล้ว เขาควรจะอยู่ดูแลมัจฉาในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะจากกัน
       
       มัจฉาฝากลูกสาวไว้กับไตร ก่อนที่ร่างของเธอ รวมถึงพ่อเพิ่ม วรรณา ยายทอง และข่อยจะสลายไป ขณะที่สุดที่รักและตวิษาได้เห็นก็รู้สึกผิดกับมัจฉาและไตรมากๆที่เธอและเขาคอยขัดขวางความรักของเธอและไตรมาตลอด ทั้งคู่กลายมาทำดีต่อกันมากขึ้น และพัฒนามาเป็นความรักเล็กๆโดยไม่รู้ตัว
       
       20 ปีต่อมา มินตรา ลูกสาวของไตร เติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวน่ารักเธอได้รับปริญญาท่ามกลางความภาคภูมิใจของไตร อดิศร ตรีทิพย์ รวมถึง ตวิษา และสุดที่รัก ที่ขณะนี้ได้เป็นสามีภรรยาและมีลูกน่ารัก ๆ ถึง 3 คน ในงานรับปริญญาของมินตรา ไตรได้พบกับหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับมินตรา เธอมีใบหน้าคล้ายกับมัจฉาไม่ผิดเพี้ยน เธอคือ มัจฉา เพื่อนต่างคณะของมินตรา ที่ร่วมรับปริญญาในวันนี้ด้วย
       
       ทันทีที่ไตรและมัจฉาได้พบกันก็รู้สึกประทับใจกันในทันที แม้วัยของทั้งคู่จะต่างกันราวพ่อกับลูก หากแต่ด้วยเงื่อนไขของความรักที่ทั้งคู่มีให้กันมาก่อนเก่า ทำให้ชายวัยกลางคนเช่นไตร ได้กลับมามีความรักอีกครั้ง และรักครั้งนี้จะเป็นรักที่ยั่งยืนตราบนานเท่านาน ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครสะใภ้ไร้เงา ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7 สี 
 
รายชื่อนักแสดงใน ละครสะไภ้ไร้เงา
 
ณัฐชา นวลแจ่ม รับบท มัจฉา
เขตต์ ฐานทัพ รับบท ไตร
แอนดูรย์ กรเศก รับบท สุดที่รัก
ปทิตตา อัธยาตมวิทยา รับบท ตวิษา
กัญญกร พินิจ รับบท เอื้อมพร
ดารัณ ร่วมทอง รับบท คุณหญิง ตรีทิพย์
ไพโรจน์ สังวรบุตร รับบท พ่อเพิ่ม
ปิยะดา เพ็ญจินดา รับบท แม่วรรณา
พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา รับบท ยายทอง
ตฤณ เศรษฐโชค รับบท อดิสร
ปิ๊งปิ๊ง ธีระภพ ทรงวาจา รับบท ข่อย
พีรวัชร์ เหราบัตย์ รับบท ยมทูตแอนดี้
หมวย ชวนชื่น รับบท พิศ
จุ๊กกะดุ๋ย ดนยา รับบท น้อย
 แตน ราตรี วิทวัส รับบท นางสร้อย
เล็ก ไอศูรย์ รับบท สมภพ
แวร์ โซว รับบท คุณหญิงมิ่งศรี
น้ำเงิน บุญหนัก รับบท ป้าแจง
วิชัย จงประสิทธิ์พร รับบท หนึ่ง 
 
: ละคร, ละครเย็น, เรื่องย่อ, เรื่องย่อละคร


 
 
ร่วมแสดงความคิดเห็น
 
ชื่อ :
 
ความคิดเห็น :