ละคร > ช่อง 7

เรื่องย่อละคร ผักบุ้งกับกุ้งนาง

1 เม.ย. 2559 16:07 น. | เปิดอ่าน 4145 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

บทประพันธ์โดย :  โสภี พรรณราย

บทโทรทัศน์โดย :  เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์

กำกับการแสดงโดย : ปกาศิต กิ่งศักดิ์

ผลิตโดย :  บริษัท มากกว่าฝัน จำกัด

ควบคุมการผลิตโดย : วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ และ ศิริพิชญ์ วิมลโน

ออกอากาศ : ออกอากาศทุกวัน เวลา 18.20 น. ทางช่อง 7 สี

 

เรื่องย่อละคร  ผักบุ้งกับกุ้งนาง

 
 
 
          ผักบุ้ง (ซอนญ่า สิงหะ) สาวแสนสวย เก่งและแก่น อาศัยอยู่กับยายและครอบครัวของน้าสาว ในชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง นางนวล มารดาของเธอถูกรถชนเสียชีวิตหลายปีมาแล้ว ตั้งแต่ผักบุ้งยังเด็กอยู่ในครอบครัวเล็ก ๆ นี้ โดยมี อรสา (วชิรา เพิ่มสุริยา) น้าสาวที่รัก และเอ็นดูเธออย่างจริงใจรับภาระในการเลี้ยงดูเธอทุกอย่าง ทั้งที่อรสาเองก็มีลูกสาวเหมือนกันชื่อ มณี (ปราณวรินทร์ ปามี) มณีนั้นอายุน้อยกว่าผักบุ้งเพียงไม่กี่เดือน ทั้งคู่โตมาด้วยกันแต่นิสัยต่างกันมาก ขณะที่ผักบุ้งขยัน เรียนเก่ง แต่มณีขี้เกียจ ดีแต่ฟุ้งเฟ้อ ยิ่งไปกว่านั้น นางพวง (น้อย โพธิ์งาม) ผู้เป็นยายเองก็ลำเอียงรักมณีมากกว่าผักบุ้ง วันชัย (นึกคิด บุญทอง) น้าเขยก็เป็นกรรมกรมีเพียงค่าแรงรายวัน แต่ติดเหล้าเหมือนกันซ้ำร้ายยังชวนยายพวงกินเหล้าจนติดด้วยกันทั้งคู่ คนที่รับภาระหนักในการหาเงินเข้าบ้านก็คืออรสา 
 
          ทุกวันอรสาจะเข็นรถเข็นขายส้มตำไก่ย่างไปขายที่หน้าโรงงานแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้านนัก ซึ่งผักบุ้งช่วยอรสาทำงานตั้งแต่เด็ก จึงรู้ว่าเงินนั้นหายากและรู้ว่าอรสาเหนื่อยเพียงใดกว่าจะได้เงินสักบาท แต่มณีกลับใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยทั้งที่ไม่เคยช่วยอรสาทำงานเลย เมื่อเรียนจบมัธยมปลายผักบุ้งไม่ต้องการทำตัวเป็นภาระให้กับน้าสาวอีก เธอจึงไม่ยอมเรียนต่อทั้งที่เรียนดี ผักบุ้งเริ่มทำงานหาเงินใช้เอง ตอนเช้าถึงเที่ยง เธอจะช่วยอรสาขายของ ฝีมือตำส้มตำของเธอมีลูกค้าติดกันมากมาย
 
          พอบ่ายจัด ๆ เมื่อลูกค้าซาลง ผักบุ้งจะไปสำเพ็งหรือประตูน้ำ เธอไปซื้อเครื่องประดับเก๋ ๆ กับเสื้อผ้าสไตล์วัยรุ่นเพื่อเอามาขาย ผักบุ้งเลือกของเก่ง เธอจึงมักจะมีของสวย ๆ แปลก ๆ มาขายอยู่เสมอ ประกอบกับตัวผักบุ้งเองชอบค้าขาย และเธอฝันอยากเป็นนักธุรกิจมีกิจการอะไรสักอย่างเป็นของตัวเอง ผักบุ้งจึงขยันทำงานมาก เธอเก็บออมกำไรจากการขายของเข้าธนาคารไว้ แต่ผักบุ้งต้องเก็บสมุดบัญชีซ่อนไว้จนมิดชิด และเรื่องเงินฝากนี้ผักบุ้งไม่บอกใครเลย เพราะรู้ดีว่าทุกคนในบ้านยกเว้นอรสาหิวเงินทั้งสิ้น โดยเฉพาะมณีจะแอบจิ๊กเงินจากตระกร้าเก็บเงินขายของของอรสาวันละหลายร้อย เพื่อไปเที่ยวช็อปปิ้ง และสถานที่ที่มณีชอบไปคือสยาม 
 
           ซึ่งผักบุ้งรู้ว่าของกินที่นั่นแพงจนจับไม่ลง เมื่อมณีแอบมาจิ๊กเงินทีไร ถ้าผักบุ้งยังอยู่เธอจะไม่ยอมให้มณีได้เงินไปง่าย ๆ ทั้งคู่จึงมีปากเสียงกันเสมอ อรสาต้องเข้ามาห้าม แล้วก็จบลงที่มณีได้เงินไปตามเคย จนผักบุ้งน้อยใจและเจ็บใจ เธอช่วยอรสาขายของเหนื่อยแทบตายก็เพื่อหวังให้อรสาไม่เหนื่อยมากนัก เป็นการทดแทนบุญคุณ แต่อรสากลับยอมให้มณีใช้เงินได้อย่างตามสบาย ด้วยเหตุนี้ผักบุ้งจึงมุมานะทำงานมากขึ้น ช่วงไหนที่ไม่ได้ขายของเพราะฝนตกหรือไม่มีของดี ๆ สวย ๆ ผักบุ้งก็จะไปรับงานพิเศษเป็นพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มในห้องอาหารของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีงานเลี้ยงใหญ่ ๆ มักจะมีพนักงานไม่พอเสมอ ผักบุ้งจึงได้ทำงานในแบบพาร์ทไทม์อยู่เรื่อย ๆ
 
 
 
           เช้าวันนั้นผักบุ้งตื่นขึ้นแต่เช้าเหมือนทุกวัน เธอกอดตุ๊กตาหมีตัวโตในอ้อมแขนแรง ๆ อีกครั้งเหมือนต้องการความอบอุ่นและกำลังใจ ก่อนจะวางบนฟูกบาง ๆ อย่างถนอม เพราะมันคือของขวัญชิ้นสุดท้ายที่นวลมารดาของเธอซื้อมาให้ ผักบุ้งรู้ดีว่านวลรักเธอมาก นวลจะซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ และขนมมาฝากเสมอเมื่อกลับจากที่ทำงาน ตุ๊กตาตัวนี้ก็เช่นกัน เมื่อรู้ว่าผักบุ้งอยากได้ นวลเก็บเงินอยู่หลายวันกว่าจะได้มาพอซื้อให้ลูกสาว เป็นของขวัญวันเกิด ผักบุ้งยังจำได้ว่าเธอดีใจมากแค่ไหน เมื่อนวลส่งตุ๊กตาหมีตัวโตมาให้ แต่แล้ววันรุ่งขึ้นผักบุ้งก็ต้องเสียใจที่สุดเมื่อนวลถูกรถชนตาย ผักบุ้งจึงรักและหวงตุ๊กตาตัวนี้นัก เพราะมันเปรียบเสมือนตัวแทนของนวล เธอชอบกอดและซบมันเสมอเวลาที่เหนื่อยและทุกข์ใจ ราวกับรอรับความอบอุ่นและกำลังใจจากแม่ของเธอ และผักบุ้งก็จะรู้สึกดีขึ้นทุกครั้งเช่นกัน
 
          ผักบุ้งอาบน้ำและแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อออกไปช่วยอรสา แต่พอเธอก้าวออกจากห้อง ยายพวงก็ทำให้ผักบุ้งหงุดหงิดจนได้ เมื่อใช้ให้เธอไปซื้อเหล้าแต่เช้า ขณะที่มณีเดินนวยนาดออกมาใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวตัวสั้น กางเกงเอวต่ำอวดผิวเนียนอย่างไม่อาย เมื่อผักบุ้งเตือนว่ามณีแต่งตัวโป๊เกินไปจนน่าเป็นห่วง มณีกลับหัวเราะเยาะแล้วว่าผักบุ้งแรง ๆ ว่าอิจฉาเพราะไม่มีปัญญาจะซื้อมาใส่ ซ้ำร้ายยายพวงยังเข้าข้างมณี นางด่าผักบุ้งซ้ำอีก ผักบุ้งน้อยใจจึงผลุนผลันลงจากบ้าน เธอเดินไปหลังชุมชนบริเวณที่ติดกับวัด เธอไปบ้านของลุงสมาน (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) อดีตนักมวยทีมชาติ สมานเป็นครูสอนวิชาป้องกันตัวให้ผักบุ้ง ซึ่งผักบุ้งทำได้ดีเสียด้วย เธอปราบ ไอ้โต (อรุชา โตสวัสดิ์) นักเลงใหญ่จนไม่กล้าหือ นอกจากปากเปราะ เจ๊าะแจ๊ะจีบเธอไปเรื่อย โตนั้นชอบผักบุ้งเพราะสวย แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่าพูดจีบ แซวเล่นเพราะรู้ฤทธิ์มือและเท้าของผักบุ้งดีว่าหนักแค่ไหน
 
          ผักบุ้งเข้าบ้านสมานอย่างคุ้นเคย เธอชอบคุยกับสมาน เพราะสมานสอนเธอหลายอย่าง นอกจากหมัดมวยสมานจะเล่าอดีตของตัวเองให้ฟัง และให้ดูเป็นตัวอย่างว่า เมื่อครั้งที่รุ่งโรจน์มีชื่อเสียง ไม่รู้จักใช้เงินและเก็บออม เมื่อไม่สามารถชกมวยได้ในวันนี้จึงแทบไม่เหลืออะไร สมานจะสอนให้เธออดทนขยันและทำมาหากิน ที่สำคัญผักบุ้งรู้ว่าสมานรักและเอ็นดูเธออย่างจริงใจ แต่วันนี้เธอเข้าเขตบ้านสมานและเห็นว่าสมานอยู่กับ ร.ต.อ.เผด็จ (ลิขิต บุตรพรม) ผักบุ้งก็หันหลังกลับทันที จนสมานต้องเรียกตัวไว้ ผักบุ้งจึงยอมกลับมา ทั้งนี้เพราะเธอโกรธที่เผด็จห้ามไม่ให้เธอชกปากไอ้โตเมื่อวันก่อน ในฐานะที่มันปากเปราะแถมยังทำท่าจะลวนลามเธออีก ผักบุ้งไม่ยอมเข้าใจว่า ถ้าเธอทำร้ายไอ้โตเธอน่ะแหละจะเป็นคนเดือดร้อน ถ้าไอ้โตแจ้งตำรวจจับเธอในข้อหาทำร้ายร่างกาย และเผด็จอยากช่วยเธอต่างหาก 
          
 
          ส่วนเผด็จนั้นสนใจผักบุ้งเพราะความเฮี๊ยบ และรู้มาว่าเป็นคนขยันนอกจากความสวย ยิ่งไปกว่านั้นเผด็จเองก็เป็นลูกศิษย์ของสมานเช่นกัน เขาจึงเอ็นดูผักบุ้งอย่างน้องสาวจอมแก่นมากกว่าจะรักอย่างชู้สาว แม้ในระยะแรกเขาเคยนึกอยากจีบอยู่บ้างเพราะผักบุ้งสวยมาก แต่เมื่อรู้นิสัยใจคอ รู้ฤทธิ์ความแก่นของเธอแล้ว เผด็จก็เปลี่ยนใจ เขาชอบผู้หญิงน่ารัก อ่อนหวานมากกว่าสวยเก่ง และแก่นขนาดชกปากนักเลงตัวโต ๆ ได้อย่างผักบุ้ง จะอย่างไรก็ตามเผด็จก็เต็มใจที่จะดูผักบุ้งในฐานะน้องสาวและลูกศิษย์อาจารย์เดียวกันเสมอ อีกประการหนึ่ง สมานเองก็ฝากให้เข้าดูแลผักบุ้งด้วยเช่นกัน เมื่อเผด็จเห็นว่าผักบุ้งอารมณ์เสียจริงก็ยอมเป็นฝ่ายกลับไป โดยปล่อยให้ผักบุ้งได้คุยกับสมานตามสบาย สักพักผักบุ้งก็อารมณ์ดี สมานจึงสอนวิชาหมัดมวยให้ต่อไป
 
 
 
          คืนวันนั้นผักบุ้งมีงานที่โรงแรมหรู เธอต้องไปเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานค๊อกเทลเปิดตัวสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ระหว่างที่ทำงานผักบุ้งรู้สึกว่าเธอถูกชนจนเซไปปะทะหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแขกผู้มาร่วมงาน ต่างคนต่างขอโทษกันในทันที แต่เมื่อผักบุ้งเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณี ผักบุ้งก็อึ้งพูดไม่ออกเมื่อพบว่าสาวผู้นั้นหน้าตาคล้ายเธอมาก ผิดกันแต่ว่าผักบุ้งอยู่ในเครื่องแบบของพนักงานเสิร์ฟ แต่สาวสวยคนนั้นแต่งกายเรียบหรู สง่างาม อีกทั้งเครื่องประดับราคาแพงก็บอกฐานะของเธอได้เป็นอย่างดี ตัวของสาวไฮโซเองก็ตกใจที่พบกับคู่แฝดคนละฝาอย่างบังเอิญเช่นนี้ อย่างไรก็ตามสาวสวยไฮโซ หรือกุ้งนาง (ซอนญ่า สิงหะ) ก็รีบคว้ามือผักบุ้งให้เลี่ยงไปคุยที่มุมห้อง เธออยากรู้จักคู่แฝดว่าเป็นใครแต่โอกาสไม่อำนวย
 
          กุ้งนางจึงได้รู้ว่าคู่แฝดเพื่อนใหม่ชื่อผักบุ้งเท่านั้น กุ้งนางหรือ รัสมา เป็นทายาทคนเดียวของตระกูล ดิเรกณรงค์ ซึ่งทำธุรกิจระหว่างประเทศมีทรัพย์สินเป็นพันล้านบาท กุ้งนางรู้แต่ว่าพ่อและแม่เธอประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ ตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ ทองแข (ดวงใจ หทัยกาญจน์) ผู้เป็นย่าเป็นผู้ที่ดูแลเธอมาจนโตเป็นสาว โดยมี ศิริพรรณ (สโรชา วาทิตตพันธ์) อาสะใภ้ช่วยดูแลอีกคน ส่วนธุรกิจต่าง ๆ สุธี (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) ผู้เป็นอาเป็นผู้ดูแลดำเนินกิจการจนเจริญรุ่งเรือง และขณะนี้มี กร (พาทิศ พิสิฐกุล) หลานชายของศิริพรรณมาช่วยทำงานอีกคนหนึ่ง กรนั้นเรียนจบจากต่างประเทศ เก่งและซื่อสัตย์มากเขาเป็นกำลังสำคัญของสุธี กรมีคู่หมั้นแล้วชื่อ ดวงรัตน์ (กชกร ส่งแสงเติม) ซึ่งพบกันที่ต่างประเทศ กุ้งนางรักและนับถือกรเหมือนพี่ชาย เช่นเดียวกับที่กรที่เอ็นดูรักกุ้งนางเหมือนน้องสาว เขารู้สึกว่ากุ้งนางอ่อนแอ บอบบางเหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ต้องมีคนดูแลตลอดเวลา กรจึงทำตัวเป็นพี่ชายที่ดีของกุ้งนางเสมอมา
 
          สิ่งที่กุ้งนางเศรษฐีสาวน้อยเบื่อที่สุดคือ การที่ต้องถูกบังคับให้เรียนรู้การดำเนินธุรกิจอย่างคร่ำเคร่ง ไหนจะต้องเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศอีก กุ้งนางถูกสุธีบังคับ และเตรียมเธอให้พร้อมสำหรับดำเนินธุรกิจต่อจากเขามาตั้งแต่เธอเริ่มเป็นสาว กุ้งนางถูกสอนให้แต่งตัววางตัวในสังคม และต้องไปงานเลี้ยงเปิดตัวสินค้า จนกุ้งนางเบื่อยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ไม่มีใครรู้ว่าสุธีทำลงไปก็เพื่อหวังบีบคั้นให้กุ้งนางเบื่อมาก ๆ ซึ่งขนาดขายบริษัทให้เขาก็ยิ่งดี หรือบ้าไปเลยสุธีก็จะยิ่งพอใจมาก เขาทำตัวเป็นญาติผู้ใหญ่ที่หวังดี แต่ความจริงแล้วสุธีโลภมาก เขาบริหารบริษัทมานานจนคิดว่าเป็นของตัวเอง และไม่ยอมที่จะให้เป็นของกุ้งนางอีกต่อไป ขณะที่เขาสอนกุ้งนางอย่างเคร่งครัด เขาก็แอบยักยอกรายได้ต่าง ๆ เข้ากระเป๋าตัวเองอย่างสม่ำเสมอ สุธีรู้ดีว่ากุ้งนางไม่มีทางรู้ เพราะกุ้งนางไว้ใจเขามากที่สุด ที่สำคัญสุธีสบประมาทว่ากุ้งนางโง่อยู่เสมอมา 
 
          ส่วนกุ้งนางนั้นนอกจากเบื่อเรื่องธุรกิจแล้ว เธอเหงามากไม่มีเพื่อนสนิทสักคน เมื่อกรกลับมาใหม่ ๆ กุ้งนางก็มีกรเป็นเพื่อน ต่อมาเมื่อกรหมั้นกับดวงรัตน์ เธอก็มีดวงรัตน์เป็นเพื่อนอีกคน แต่แล้วดวงรัตน์ก็ทำให้กุ้งนางรู้ว่าสังคมมีแต่ใส่หน้ากากเข้าหากัน เธอได้ยินดวงรัตน์นินทาเธอลับหลังว่าดีแต่สวยปัญญาไม่มีเป็นสาวรวยแต่ปัญญาอ่อน ดวงรัตน์เม้าท์จนลืมตัวเผลอนินทากุ้งนางในห้องน้ำที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ขณะที่มางานเลี้ยงด้วยกัน ดวงรัตน์ไม่รู้ว่ากุ้งนางอยู่ในห้องน้ำด้วย กุ้งนางจึงได้รับรู้ความจริงอย่างเสียใจ เพราะต่อหน้าเธอแล้วดวงรัตน์จะอ่อนหวาน พูดเพราะเอาใจเธอทุกอย่าง แต่ลับหลังแล้วดวงรัตน์ร้ายกาจกับเธอที่สุด ซ้ำร้ายดวงรัตน์ยังพยายามชักนำให้ วิรัตน์ (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ผู้เป็นพี่ชายเข้ามาจีบเธออีกด้วย ถึงจะดูนิ่ง ๆ เรียบร้อย แต่กุ้งนางก็ไม่ได้โง่เสียจนดูไม่ออกว่า 2 พี่น้องไม่จริงใจกับเธอเลย กุ้งนางจึงไม่ยอมเปิดโอกาสให้วิรัตน์ได้ใกล้ชิดกับเธอสักครั้ง
 
 
 
          ถึงกระนั้นเมื่อกลับจากงานเลี้ยง กุ้งนางคิดถึงผักบุ้งตลอดเวลา เธอเบื่อที่จะอยู่กับคนที่ไม่จริงใจ เธออยากเป็นอิสระบ้างถึงแม้ว่ากรจะเข้าใจ และคอยช่วยเหลือเธอบ้างในเรื่องธุรกิจ แต่กุ้งนางก็บอกเรื่องดวงรัตน์ไม่ได้ ยิ่งเห็นดวงรัตน์ในคืนนี้กุ้งนางก็อยากจะหนีไปไหนให้พ้นสักพัก ซึ่งเธอก็รู้ว่าคงรอดตาของกรหรือสุธีได้ยากเต็มที แต่แล้วกุ้งนางก็คิดออก เธอจะตามหาผักบุ้งและสลับตัวกันถึงแม้ชั่วคราวก็ยังดี ถึงแม้จะพบกันเพียงครั้งเดียว แต่กุ้งนางก็รู้สึกว่าผักบุ้งเป็นคนดี คืนวันต่อมากุ้งนางจะออกไปตามหาผักบุ้งที่โรงแรมนั้น กรมาพบเข้าพอดีจึงอาสาขับรถให้ เมื่อไปถึงโรงแรมกุ้งนางก็ผิดหวังเพราะผักบุ้งเป็นพนักงานชั่วคราว ตลอดเวลาที่เดินทางมากุ้งนางบอกกรเพียงว่าเธอจะมาหาเพื่อนชื่อผักบุ้ง กุ้งนางให้กรพามาที่นี่อีกหลายครั้งแต่ก็ไม่พบ
 
          เรื่องการออกไปข้างนอกกับกรในเวลากลางคืนของเธอรู้ถึงหูดวงรัตน์ ดวงรัตน์ซึ่งอิจฉากุ้งนางอยู่แล้วจึงออกอาการหึงอาละวาดกุ้งนางจนน่าเกลียด และกลับไปยุวิวัฒน์ให้จีบกุ้งนางยิ่งขึ้น จนวันหนึ่งกุ้งนางทนไม่ไหวจึงหนีวิรัตน์ออกจากบ้านไป เธอขึ้นแท๊กซี่ให้พาไปที่โรงแรมที่พบผักบุ้งอีก คราวนี้โชคดีเพราะผักบุ้งมาทำงานพิเศษ และกำลังจะกลับบ้าน ทั้งคู่จึงพบกันที่หน้าโรงแรมนั่นเอง การหายไปของกุ้งนางทำให้กรเป็นห่วงมาก เขารีบขับรถออกตามหาเธอ ซึ่งเขาเดาว่ากุ้งนางต้องมาโรงแรมนี้ วันนี้กุ้งนางมีโอกาสคุยกับผักบุ้งเรื่องขอสลับตัวเพียงครู่เดียว เธอก็เห็นรถของกร กุ้งนางพยายามให้ผักบุ้งรับปาก แต่ผักบุ้งไม่ยอม เธอให้กุ้งนางกลับไปคิด 1 คืน แล้วค่อยมาพบกันอีกครั้งพรุ่งนี้ที่หน้าโบสถ์ในวัดใกล้ ๆ นี้เอง ก่อนจะแยกจากกันไป เมื่อกรเดินมาหาจึงเห็นกุ้งนางยืนอยู่คนเดียวอย่างอารมณ์ดี
 
          วันรุ่งขึ้นกุ้งนางไปตัดผมสั้นดูทะมัดทะแมง เธอตั้งใจตัดผมให้คล้ายผักบุ้งที่สุด คืนนั้นกรไปส่งกุ้งนางที่โรงแรมตามเคย โดยกุ้งนางขอเวลา 2 ชั่วโมงก่อนให้เขากลับมารับอีกครั้ง กุ้งนางเดินไป ที่จุดนัดพบอย่างตื่นเต้น ระหว่างนั่งคอยผักบุ้งเธอก็ต้องตกใจเมื่อเผด็จเดินเข้ามาทักว่าเป็นผักบุ้ง ใจหนึ่งเธอก็ดีใจที่ตบตาคนอื่นได้ กุ้งนางจึงรับสมอ้างเป็นผักบุ้งคุยกับเผด็จอย่างเรียบร้อย อ่อนหวานตามนิสัย จนเผด็จแปลกใจที่ผักบุ้งน่ารักผิดปกติ ทั้งคู่คุยกันอยู่นาน โดยที่กุ้งนางเป็นฝ่ายรับคำเออ ๆ ค่ะ ๆ ไปตามเรื่อง จนถึงเวลาที่นัดกรมารับ กุ้งนางจึงต้องรีบหาทางเลี่ยงไป เธอแปลกใจที่ผักบุ้งไม่มาตามนัด จะอย่างไรก็ตามคืนวันต่อมากุ้งนางก็มารออีกครั้งและก็พบเผด็จอีกจนได้ เผด็จไม่ยอมให้กุ้งนางหรือผักบุ้งในความเข้าใจของเขาอยู่ตามลำพัง เพราะสาวสวยอย่างเธออยู่ในที่เปลี่ยวดูจะไม่ปลอดภัย เป็นอันว่าคืนนั้นกุ้งนางก็ไม่ได้พบผักบุ้งอีกจนได้ 
 
          ส่วนผักบุ้งไม่ใช่ว่าลืมนัดกับกุ้งนางแต่เหมือนถูกแกล้งทั้งยายพวงและวันชัยต่างก็ใช้เธอทำงานจนเลยเวลานัดทุกที ผักบุ้งคิดหนักมากขึ้นไม่อยากให้กุ้งนางมาลำบาก ยิ่งระยะหลัง ๆ วันชัยชอบมองเธอแปลก ๆ แล้วหาโอกาสแตะเนื้อต้องตัวเธออยู่เรื่อย ๆ แต่คนอย่างผักบุ้งหรือจะยอมง่าย ๆ วันชัยจึงถูกแม่ไม้มวยไทยของผักบุ้งจนเจ็บตัวบ่อย ๆ แต่ก็ไม่กล้าโวยวาย ไหนจะเรื่องไอ้โตอีก ทว่าในที่สุดสองสาวคู่เหมือนก็พบกันจนได้ กุ้งนางขอร้องจนผักบุ้งยอม ยิ่งรู้เรื่องดวงรัตน์และวิรัตน์ที่วุ่นวายกับกุ้งนาง ผักบุ้งรู้สึกโกรธแทนอย่างบอกไม่ถูก เธอรู้สึกผูกพันกับเพื่อนใหม่ไฮโซคนนี้มาก ทั้งผูกพันและห่วงใยจนน่าแปลกใจ ซึ่งกุ้งนางเองก็เช่นกันทั้งคู่นัดพบกันอีกหลายครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของกันและกันอย่างละเอียดก่อนจะสลับตัวกัน ทั้งนี้ผักบุ้งย้ำกับกุ้งนางเสมอว่าถ้าจะกลับมาสู่ชีวิตเดิมเมื่อไร เธอก็พร้อมทันที
 
 
 
          แล้วก็ถึงวันที่ทั้งคู่รอคอยคือวันที่จะสลับชีวิตกัน กุ้งนางบอกกรว่าอยากจะเป็นคนใหม่ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็อย่าโกรธเธอ ให้ปฏิบัติต่อเธอเหมือนน้องสาวเหมือนเดิม กรรับปากแม้จะแปลกใจอยู่บ้าง เช่นเดียวกับผักบุ้งเธอเป็นฝ่ายไปหาเผด็จแถมยังบอกอีกว่า พักนี้ไอ้โตมากวนใจวอแวเธอบ่อยเหลือเกิน ถ้าไม่อยากให้เธอต้องทำร้ายมันละก้อให้หมั่นไปตระเวนแถว ๆ ร้านส้มตำอรสาบ้าง ซึ่งเผด็จรับปากแต่โดยดี คืนนั้นทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่ห้างสรรพสินค้าเล็ก ๆ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตใหม่อย่างที่ตกลงกัน ผักบุ้งขึ้นรถของกรอย่างระมัดระวังเธอพูดน้อยจนกรรู้สึก แถมเมื่อถึงบ้านยังป้ำ ๆ เป๋อ ๆ เดินผิดห้องอีกแต่ก็รอดตัวไปจนได้ ตรงกันข้ามกับกุ้งนางซึ่งคืนแรกก็เจอดีเข้าแล้ว เมื่อพบกับไอ้โตก่อนจะเข้าบ้าน ไอ้โตพูดจาแทะโลมก่อนตามนิสัย แต่เมื่อกุ้งนางตอบอย่างเงอะงะแถมมีทีท่าหวาดกลัวมันก็เริ่มได้ใจ 
 
          ไอ้โตเตรียมเข้ามาลวนลามเธอตามถนัด เผด็จก็ผ่านมาพอดี ไอ้โตเผ่นหนีอย่างไม่มีฟอร์ม ภาพของกุ้งนางที่อ่อนแอเป็นผู้ยิ้งผู้หญิง ทำให้เผด็จประหลาดใจว่าผักบุ้งสาวห้าวทำไมถึงดูบอบบางน่ารักนัก แถมเมื่อเขาบอกว่าจะเดินไปส่งที่บ้านเธอก็ยอมโดยดี ระหว่างเดินไปด้วยกันทางเดินแคบทำให้ต้องเดินใกล้ชิดกันมาก ด้วยความไม่ชินทางและความเขินอายทำให้กุ้งนางเดินสะดุดบ่อย ๆ จนเผด็จต้องคอยจับแขนหรือประคองเธอไว้ตลอดทาง กุ้งนางพยายามทำตัวเข้มแข็งแต่ก็ไม่สำเร็จ เธอไม่รู้ว่าเผด็จเองเริ่มประทับใจกับผักบุ้งคนนี้เข้าให้แล้ว ผักบุ้งกุ้งนางทำให้คนรอบข้างผิดสังเกตกันมากมาย สาวห้าวกลับเป็นสาวเรียบร้อย อ่อนไหว มีน้ำใจ ขณะที่สาวนุ่มนิ่มอ่อนหวานอย่างกุ้งนางกลับเฮี้ยวและห้าว แถมยังขยันทำงานอีกด้วย ที่สำคัญฉลาดเรียนรู้ธุรกิจได้เร็วจนกรหลงเสน่ห์ความเก่งอย่างไม่รู้ตัว
 
          ความใกล้ชิดของกรและกุ้งนาง (ผักบุ้ง) ทำให้ดวงรัตน์หึงขนาดหนักถึงขนาดตามมาอาละวาดถึงบ้าน ผักบุ้งหรือจะยอมง่าย ๆ ดวงรัตน์จึงถูกย้อนอย่างเจ็บปวดพอกัน เรื่องยุ่งมากขึ้นเมื่อดวงรัตน์ยุให้วิรัตน์ปล้ำกุ้งนาง (ผักบุ้ง) เพื่อรวบรัด โดยแน่ใจว่าสาวตุ๋มติ๋มอย่างกุ้งนางต้องยอมตกกระไดพลอยโจนแต่งงานแก้หน้าแน่นอน แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อวิรัตน์เริ่มอาการเจ้าชู้ยักษ์กับกุ้งนาง (ผักบุ้ง) ในวันหนึ่งเมื่อเห็นว่าเธออยู่คนเดียว วิรัตน์จึงโดนกุ้งนาง (ผักบุ้ง) ใช้วิชาอัดลงไปนอนกองกับพื้น กรกลับมาพอดีเขาโกรธมาก และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อรู้ว่าดวงรัตน์เป็นผู้สนับสนุนพี่ชาย กรขอถอนหมั้นกับดวงรัตน์ทันที ยิ่งเวลาผ่านไปกรก็ยิ่งจับพิรุธได้ว่ากุ้งนางคนนี้ไม่ใช่กุ้งนางคนเก่า จะอย่างไรก็ตามกรยอมรับกับตัวเองว่าเขารักกุ้งนางคนนี้เขาให้แล้ว 
 
          ส่วนดวงรัตน์ยังตามตื้อกรอีก เธอโวยวายว่ากุ้งนางแย้งกรไป กุ้งนาง (ผักบุ้ง) สวมรอยทันที เธอหวานกับกรอย่างน่ารัก ผักบุ้งไม่รู้ตัวว่าเธอทำอะไรลงไปเพราะใจเธอต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน ส่วนกรรับสมอ้างต่อทันทีเหมือนกัน ดวงรัตน์จึงยิ่งคลั่ง ส่วนสุธีเริ่มหงุดหงิดเมื่อกุ้งนาง (ผักบุ้ง) ไม่ยอมเซ็นอนุมัติโครงการต่าง ๆ ง่าย ๆ เหมือนเดิม แถมยังมีการเอาบัญชีรายรับรายจ่ายเก่า ๆ ของบริษัทมาดูเสียอีก สุธีไม่รู้ว่าผักบุ้งจับได้แล้วว่าเขาโกงบริษัท ส่วนกุ้งนางต้องผจญความวุ่นวายอย่างน่าสงสารจากคุณหนูไฮโซต้องมาตำส้มตำ ยิ่งไปกว่านั้นเทพบุตรในดวงใจคือเผด็จก็มาโดนมณีมาทำท่าเป็นเจ้าเข้าเข้าของจนเธอเสียใจ แต่เผด็จก็รีบมาบอกความจริงเสียก่อน กุ้งนางจึงมีกำลังใจอยู่ต่อไปได้
 
 
 
          คนที่จับพิรุธได้ก่อนว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ใช่ผักบุ้งก็คืออรสา เธอเลี้ยงผักบุ้งมานานจนรู้นิสัยใจคอ อยู่ด้วยกันเพียง 2 วันอรสาก็รู้แล้วว่าคนนี้ไม่ใช่หลานสาวคนเดิม เธอพากุ้งนางไปที่โบสถ์ และถามความจริงต่อหน้าพระประธาน กุ้งนางจึงต่อสารภาพความจริง อรสานิ่งไปเมื่อรู้ว่าสาวน้อยคนนี้เป็นใครยิ่งประหลาดใจ เมื่อรู้ว่ากุ้งนางเกิดวันเดียวเดือนเดียวกับผักบุ้ง ความน่าจะเป็นที่ทั้งคู่เป็นคู่แฝดกันมีสูงมาก คนที่จะตอบได้ดีคือนวลซึ่งก็ตายไปแล้ว นับจากวันนั้นอรสาจะคอยปกป้องดูแลกุ้งนางมากขึ้น อีกคนที่จับพิรุธได้ก็คือลุงสมาน แกทำให้กุ้งนางต้องสารภาพความจริงอีกคน สมานดูออกว่าเผด็จนั้นรักผักบุ้ง (กุ้งนาง) คนนี้จึงบอกเป็นนัย ๆ ว่าไม่ใช่ผักบุ้งคนเดิม 
 
          แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องเมื่อวันชัยเข้ามาปล้ำกุ้งนางแต่อรสามาช่วยไว้ทัน กุ้งนางกลัวมากวันชัยยังอาละวาดไม่หยุด จนอรสาทำท่าจะขวางไม่ได้ เหตุการณ์กำลังคับขันเผด็จซึ่งเป็นห่วงอยู่แล้วก็เข้ามาพอดี กุ้งนางโผเข้ากอดอย่างดีใจ เผด็จโอบเธอไว้พลางบอกทุกคนอย่างชัดเจนว่าผักบุ้ง (กุ้งนาง) เป็นแฟนเขา และเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอเด็ดขาด เหตุการณ์วันนั้นทำให้เผด็จและกุ้งนางเข้าใจกัน แต่มณีกลับแค้น เธอไปยุให้โตฉุดผักบุ้ง (กุ้งนาง) ไอ้โตหลวมตัวเชื่อมณีจึงวางแผนฉุดในค่ำวันหนึ่ง ระหว่างที่กุ้งนางกลับหลังจากเยี่ยมสมานซึ่งป่วยหนัก กุ้งนางดิ้นรนสุดชีวิตเธอดีใจที่เห็นมณีแต่กลับเป็นว่ามณีมาช่วยโตฉุดเธอให้ไปทางบ้านของโต เผด็จซึ่งไปเยี่ยมสมานเช่นกันแต่ไปทีหลังเมื่อกุ้งนางกลับมาแล้ว สมานเป็นห่วงกุ้งนางจึงให้เผด็จรีบตามมา ซึ่งก็ทันเวลาพอดีก่อนที่เขาจะเป็นบ้าเพราะห่วงเธอ
 
          ส่วนกรเมื่อจับพิรุธผักบุ้งได้มากขึ้น เขาก็ขู่เธอให้บอกความจริง ผักบุ้งปากแข็งจนกรแกล้งขู่จะส่งตำรวจผักบุ้งจึงบอกความจริง กรทำเป็นไม่เชื่อแกล้งว่าผักบุ้งต่าง ๆ นา ๆ ว่าหวังสมบัติของกุ้งนางจนผักบุ้งน้อยใจและเสียใจ เธอผิดหวังที่กรผู้ชายที่เธอรักไม่เข้าใจเธอเลย ผักบุ้งจึงต่อโทรศัพท์มือถือของกุ้งนางให้พูดกันเอง จนกรเข้าใจว่าผักบุ้ง (กุ้งนาง) ตกลงจะกลับสู่ชีวิตเดิมของตัวเอง เพราะสงสารคนรอบข้าง เมื่อวางหูจากกุ้งนาง ผักบุ้งเสียใจที่กรใจร้ายกับเธอมากจนไม่ยอมพูดด้วย เธอประชดกรด้วยฤทธิ์งอนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผักบุ้งไม่รู้ตัวว่ายามที่เธอมีกิริยาอย่างผู้หญิงนั้นน่ารักหนักหนาจนกรอดใจไม่ได้ต้องสารภาพรักกับเธอ ก่อนวันนัดที่สลับตัวกัน สุธีก็ทำเรื่องยุ่งเสียก่อน เมื่อความโลภเข้าครอบงำ เขาหลอกผักบุ้งไปขังไว้ในโกดังร้างกลางทุ่ง สุธีสร้างเรื่องแนบเนียนมากจนไม่มีใครเดาได้ กรทนไม่ไหวจึงได้ติดต่อกุ้งนางกับเผด็จ ทั้งคู่จึงซ้อนแผนโดยให้กุ้งนางกลับไปหาสุธี แล้วต่อว่าสุธีทำร้ายเธอ เมื่อพบกันสุธีตกใจเมื่อเข้าใจว่ากุ้งนาง (ผักบุ้ง) รอดมาได้ เขาหลุดปากโวยวายออกมาเรื่องโกดังจนกรเดาได้
 
           กรรีบไปช่วยผักบุ้งทันที เขาพบผักบุ้งอยู่ในสภาพที่หมดแรงเพราะขาดทั้งอาหารและน้ำ ผักบุ้งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตทันที สุธีถูกจับส่วนผักบุ้งปลอดภัย กุ้งนางรู้สึกผูกพันกับผักบุ้งมาก จึงเตรียมที่จะพาผักบุ้งมาอยู่ด้วย เธอตั้งใจจะไปขออนุญาตกับทองแข แต่ทองแขกลับทำให้ทุกอย่างลงเอยอย่างง่ายดาย เมื่อเธอมาหาสาวน้อยทั้งคู่แล้วบอกว่าทั้งผักบุ้งแล้วกุ้งนางต่างก็เป็นหลานของเธอ ทั้งคู่เป็นแฝดกันแต่ผักบุ้งซึ่งเป็นแฝดพี่นั้นถูกนวลผู้เป็นแม่อุ้มจากไปตั้งแต่แบเบาะ เพราะปู่ของผักบุ้งและกุ้งนางไม่ยอมรับสะใภ้ ทองแขพยายามตามหานวลและผักบุ้งเพื่อที่จะรับกลับมาทั้งคู่แต่ก็ไม่พบ เพราะว่านวลนั้นตายก่อนที่ปู่ของทั้งคู่จะตาย จนกระทั่งผ่านมาจนถึงวันนี้ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี ติดตามชมความสนุกสนานของ ละคร ผักบุ้งกับกุ้งนาง ได้ทุกวัน เวลา 18.20 น. ทางช่อง 7 สี ละคร ผักบุ้งกับกุ้งนาง เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 6 เมษายน 2559
 
 
 
 
 
 
 
 
 

รายชื่อนักแสดงในละคร  ผักบุ้งกับกุ้งนาง

กฤตฤทธิ์ บุตรพรม  รับบท  ผู้กองเผด็จ
พาทิศ พิสิฐกุล  รับบท  กร
ซอนญ่า สิงหะ  รับบท  ผักบุ้ง/กุ้งนาง
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์  รับบท  วิรัตน์
สโรชา วาทิตตพันธ์  รับบท  ศิริพรรณ
กชกร ส่งแสงเติม  รับบท  ดวงรัตน์
อรุชา โตสวัสดิ์  รับบท  โต
ปราณวรินทร์ ปามี  รับบท  มณี
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล  รับบท  สุธี
นึกคิด บุญทอง  รับบท  วันชัย
ปริยะ วิมลโนช  รับบท  ชัยวัฒน์
ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย  รับบท  เสี่ยสิงโต
เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรตม์  รับบท  กุ๊ก
พิมพ์นารา เอี่ยมอ่อง  รับบท  พิมพักตร์
วชิรา เพิ่มสุริยา  รับบท  อรสา
น้อย โพธิ์งาม  รับบท  ยายพวง
ดวงใจ หทัยกาญจน์  รับบท  ย่าทองแข
ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล  รับบท  ลุงสมาน
วรารัตน์ เทพโสธร  รับบท  นวล

 

: แคท ซอนญ่า


 
 
ร่วมแสดงความคิดเห็น
 
ชื่อ :
 
ความคิดเห็น :